สมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ ใช้เวลาพิจารณาและเปิดรับทางเลือกใหม่ เพื่อให้ผู้จัดการทีมคนใหม่ เริ่มต้นงานในรอบคัดเลือก ฟุตบอลโลก 2026 ที่จะเปิดฉากขึ้นในเดือนมีนาคมปีหน้า
แผนการเดิม ลี คาร์สลี่ย์ กุนซือชั่วคราว จะคุมทีมจนครบทั้ง 6 เกมในยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก บี ที่จะเล่นอีกสองเกมสุดท้ายในเดือนพฤศจิกายน เป็นโปรแกรมทีมชาติส่งท้ายปี 2024 เดิมที คาร์สลี่ย์ ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ เอฟเอ พร้อมมอบสัญญาถาวรให้เช่นกัน หากผลงานทั้ง 6 เกมในยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ออกมาสวยหรู แต่เรื่องนั้นไม่มีทางเกิดขึ้นแล้ว หลังจากเกมที่แพ้ กรีซ 1-2 เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม
กรีซ คือคู่ต่อสู้ที่จะวัดความสามารถของ คาร์สลี่ย์ ได้มากที่สุด ดังนั้นสองเกมที่ลอนดอน และเอเธนส์ จึงมีความหมายมากกว่าอีก 4 เกมกับ ไอร์แลนด์ และ ฟินแลนด์การแพ้คาบ้านต่อทีมที่มีขุมกำลังเป็นรอง จึงเท่ากับเป็นการตัดโอกาสของ คาร์สลี่ย์ ไปในทันที นั้นทำให้ ผู้บริหารของ เอฟเอ เร่งมือดำเนินการทันที เป้าหมายสูงสุดและเป้าหมายหนึ่งเดียวในนาทีนั้น ก็คือ โธมัส ทูเคิ่ล นอกจากประวัติการทำงานที่ดีแล้ว เวลานี้คงไม่มีอะไรดีไปกว่า โค้ชที่ไม่ติดสัญญากับสโมสรใดๆ
โธมัส ทูเคิ่ล โค้ชชาวเยอรมนี จะถือเป็นกุนซือต่างชาติรายที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่ได้คุม “ทัพสิงโตคำราม” ต่อจาก สเวน โกรัน อีริคส์สัน โค้ชชาวสวีเดน และ ฟาบิโอ คาเปลโล่ โค้ชชาวอิตาลี วันนี้ เราจะพามารู้จัก โธมัส ทูเคิ่ล โค้ชชาวเยอรมนี วัย 51 ปี กัน ว่ามีอะไรดีบ้างที่จะพาอังกฤษไปได้ไกลได้เเค่ไหน
ทูเคิ่ล หลังจากแยกทางกับ ไมนซ์ ในปี 2014 เส้นทางการคุมทัพของ ทูเคิล ต่อจากนั้นคือการทำงานกับสโมสรดังของยุโรปทั้งสิ้น เริ่มจาก โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์, เชลซี และบาเยิร์น มิวนิก อย่างไรก็ตามผลงานสร้างชื่อที่สุดของ ทูเคิ่ล คงหนีไม่พ้นยุคคุมเชลซี แห่งพรีเมียร์ลีก ซึ่งเจ้าตัวนำทีมได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ และฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ อย่างละ 1 สมัย
นอกจากนี้ ทูเคิ่ล ยังมีแชมป์ติดมือในช่วงที่คุมบาเยิร์น และโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ 2 ทีมบุนเดสลีกา รวมถึงปารีส แซงต์ แชร์กแมง แห่งลีก เอิง ฝรั่งเศส อีกด้วย เมื่อถามว่า ทูเคิ่ล เหมาะกับคุมทีมชาติ หรือไม่ จากผลงานข้างต้นคงเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า ทูเคิ่ล คือผู้จัดการทีมที่มีฝีมือ และเคยได้รับคำชมว่าเป็นนักวางแผนที่ดีที่สุดคนหนึ่งในยุโรป ถึงขนาดถูกนำไปเปรียบเทียบกับอดีตไอดอลของเขาอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอลา ด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามเจ้าตัวมักจะอยู่กับสโมสรใดได้ไม่นานเนื่องจากเขามักจะมีความขัดแย้งกับบอร์ดบริหาร รวมถึงลูกทีมของตัวเอง
ทำให้การที่เขาจะได้รับงานคุมทีมเป็นครั้งแรกนั้นอาจจะเป็นงานที่ “เหมาะสม” ที่สุดสำหรับเขาเนื่องจากบางทีโลกของฟุตบอลระดับชาติมีความวุ่นวายน้อยกว่าฟุตบอลสโมสร โดย ทูเคิ่ล ไม่ต้องโต้ตอบกับสื่อทุกวัน และไม่ต้องติดต่อกับนักเตะตลอดเวลา แต่สามารถวิเคราะห์นักเตะ และแนวทางการวางแผนได้ดีแทน ซึ่งสิ่งเหล้านี้อาจเหมาะกับบุคลิกของเขาได้ค่อนข้างดีทีเดียว
ขณะที่สมาคมฟุตบอลอังกฤษ ซึ่งแต่งตั้งเขามาก็ต้องยอมรับว่า ทูเคิ่ล อาจมีความต้องการบางอย่าง แม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อย และยอมรับเขาในแบบที่เขาเป็นให้ได้
หนึ่งในจุดเด่นของทูเคิ่ลก็อยู่ตรงการวางแท็กติกโดยเจาะลึกลงไปก็ทำให้เขาถือมีผลงานโดดเด่นในบอลน็อกเอาต์ เอาว่านอกจากพาเชลซีคว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกแล้ว ตอนอยู่เปแอสเชก็เคยได้เข้าชิงด้วย ขณะที่ล่าสุดกับบาเยิร์น มิวนิคก็ถือว่าโชคร้ายที่ต้องตกรอบตอนเจอเรอัล มาดริด
ถูกต้องว่าการคุมทีมชาตินั้นก็ต้องตัดสินที่ตอนเข้ารอบน็อกเอาต์นี้แหละ ไม่ใช่ทีมดีที่สุดเสมอที่จะกรุยทางไปถึงฝั่งฝันได้ มันต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็แท็กติกเพื่อทำให้ชนะ ที่ผ่านมาอังกฤษมักตกม้าตายเสมอในเกมบีบหัวใจ คราวนี้ก็เหมือนการเอาคนที่ถนัดกับบอลทัวร์นาเมนต์มาแก้ไขข้อบกพร่อง
ทูเคิ่ลพูดอังกฤษได้ดี เคยมาใช้ชีวิตอยู่ช่วงหนึ่งทำให้เขาย่อมเข้าใจถึงวิถีแบบอิงลิชชน ว่ากันว่าเขาเองมีความสนิทสนมกับสื่ออังกฤษมากกว่าเยอรมันด้วยซ้ำไป ทำงานในอังกฤษทำให้เขาไม่ต้องระวังคำพูดเหมือนในเยอรมัน เขาเองต้องการที่จะกลับมาทำงานในอังกฤษเสมอนับแต่ออกจากเชลซี ตอนนี้เขาสมหวังแล้ว
อย่างไรก็ตาม โธมัส ทูเคิล กุนซือคนใหม่ของทีมชาติอังกฤษ จากนี้ต้องมาติดตามว่า เจ้าตัวจะพาทัพ “สิงโตคำราม” ประสบความสำเร็จได้ตามที่หวังไว้หรือไม่
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews