ทีมชาติไทย U17 ทำได้ แซงชนะ อินเดีย 3-2 คว้าแชมป์กลุ่มดี ลิ่วรอบสุดท้ายชิงแชมป์เอเชีย
วันที่ 27 ตุลาคม 2567 เวลา 20.00 น. ณ ชลบุรี สเตเดียม การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี รอบคัดเลือกกลุ่มดี นัดที่สาม ทีมชาติไทย U17 พบกับ อินเดีย
เกมนี้ จเด็จ มีลาภ ใช้แข้งชุดหลักนำทีมมาโดย ปรเมศ ละอองดี, ชัยวัฒน์ เงินมา, ดนุพล บุบผา และ พีรดา หล้าสวัสดิ์
เริ่มเกมมาเป็นไทยที่พยายามบุกอย่างหนักแต่นาที 34 กลายเป็นอินเดีย ที่มาได้จุดโทษก่อนที่ งามกูฮู มาเต้ จะสังหารเข้าไปให้ อินเดีย นำก่อน 1-0
นาที 36 จากจังหวะที่ ภูริพันธ์ โพธิ์ทอง เติมมาทางซ้ายก่อนจ่ายยัดไปแฉลบชนเสาก่อนที่ศิวกร พลสรรค์ จะตามซ้ำเข้าไปให้ สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1
แต่นาที 42 จากลูกครอส และบอลมาจบที่ วิชาล ยาดาฟ วอลเลย์เข้าไปให้ อินเดีย นำ 2-1 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังนาที 60 ไทยมาได้ประตูตีเสมอจากจังหวะครอสของ ภูริพันธ์ โพธิ์ทอง และเป็นศิวกร พลสรรค์ ที่ชาร์จเข้าไปให้ ไทยกลับมาเสมอ 2-2
นาที 66 ไทยเปลี่ยนตัวคนแรกด้วยการส่ง ชัชวัสส์ สหนันท์ชัยชิต ลงไปแทน ศุภวิชญ์ ผสม
นาที 70 ไทยเปลี่ยนผู้เล่นอีกสองคนด้วยการส่ง ภาณุพงศ์ วันอ่อน และ จอมพล หอมบุญมา ลงไปแทน ปรเมศย์ ละอองดี และ พีรดา หล้าสวัสดิ์
นาที 86 ดนุพล บุบผา วางให้ ชัยวัฒน์ เงินมา หลุดไปยิงด้วยขวาเข้าไปให้ ทีมชาติไทย แซงนำ 3-2
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกมทีมชาติไทย U17 เอาชนะ อินเดีย 3-2 เก็บเก้าคะแนนเต็ม คว้าแชมป์กลุ่มดี และผ่านเข้ารอบสุดท้ายของศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ได้สำเร็จ
ส่วนผลอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน เติร์กเมนิสถาน ชนะ บรูไน 10-0
รายชื่อ 11 ตัวจริง
ศุภกร พูลผล (GK), ภูริพันธ์ โพธิ์ทอง, ภูริณัฐ พูลกำลัง, ศุภวิชญ์ ผสม, ดนุพล บุบผา (C), ชัยวัฒน์ เงินมา, ปรเมศ ละอองดี, สรกฤช แก้วศรี, ศิวกร พลสวรรค์, พีรดา หล้าสวัสดิ์, คณพศ อินทะสิงห์
จเด็จ มีลาภ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ให้สัมภาษณ์ หลังศึกชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี รอบคัดเลือก กลุ่มดี นัดที่สาม
สำหรับเกมดังกล่าวทีมชาติไทย U17 พลิกกลับมาชนะ อินเดีย 3-2 จากการยิงของ ศิวกร พลสรรค์ สองประตูและอีกลูกจากชัยวัฒน์ เงินมา
โดย จเด็จ มีลาภ กล่าวว่า “ผมรู้สึกดีใจที่ทีมชาติไทยสามารถเข้ารอบต่อไปได้ แต่วิธีการเล่นของเด็กยังไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะครึ่งแรกเด็กอาจจะประมาทคิดว่าจะเล่นยังไงก็ได้ ต่างคนต่างเล่นกันอยู่ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวกันเยอะ จนมาเสียประตูโดนขึ้นนำ เรายังต้องปรับปรุงอีกเยอะในการก้าวขึ้นไประดับเอเชีย ช่วงพักครึ่งเรามาคุยกันใหม่ว่าหากเล่นแบบนี้ก็จบแค่นี้ไม่ได้ไปต่อ ครึ่งหลังทุกคนเลยเล่นเป็นทีมด้วย”
“ผมพยายามปลุกสมาธิของนักเตะ บอกให้พวกเขาเล่นเป็นทีมมากขึ้น หากทุกคนรวมใจกันเล่นและหากมีเลือดนักสู้จะทำให้ทีมกลับมาได้ แบบในรายการชิงแชมป์อาเซียนที่เราโดนเวียดนามขึ้นนำโดนมาเลเซียนำไปก่อนเราก็กลับมาได้ ครั้งนี้พยายามบอกให้ทุกคนรวมใจกัน วิ่งเข้าไปกดดันมากขึ้น กระหายในการเล่นมากขึ้น จนครึ่งหลังสามารถทำได้ดี”
“ต้องยอมรับว่าอินเดียมาดีเช่นกัน เขาอาจจะดูเกมที่เราพบกับเติร์กเมนิสถาน ทำให้พยายามไม่ต่อบอลสู้กับเรา จะโยนบอลยาวเพื่อใช้ความสามารถและความเร็วของแนวรุกเพื่อเล่นงานแนวรับของทีมชาติไทย”
“ต้องขอบคุณหลายภาคส่วนที่สนับสนุนทีมชาติไทยชุดนี้ โดยเฉพาะสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ทางท่านนายกมีการอัดฉีดเพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเรามาโดยตลอด รวมถึงขอบคุณทุกโรงเรียนทุกอคาเดมี่ที่ส่งเด็กมาให้เราแบบเต็มใจและสนับสนุนเสมอมา ฟุตบอลทีมชาติไทยเป็นของทุกคน ทุกคนให้ความร่วมมือและสนับสนุนทีมชาติซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี ในอนาคตเด็กชุดนี้จะสู้ได้ทุกทีมหากมีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ”
ด้าน ศิวกร พลสรรค์ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ของ เกมนี้กล่าวว่า “ผมรู้สึกดีใจที่สามารถช่วยทีมให้เข้ารอบต่อไปได้ แต่เรายังต้องช่วยกันเล่นและพยายามเล่นเป็นทีมให้มากขึ้น ครึ่งแรกเรามั่นใจเกินไปและใช้ความสามารถเฉพาะตัวมากเกินไปด้วยพอพักครึ่งโค้ชช่วยกันกระตุ้นจนเรากลับมาได้ เรายังมีจุดที่ต้องแก้ไขให้ดีกว่านี้ก่อนจะไปเล่นรอบสุดท้าย”
“ขอบคุณแฟนบอลทุกคนที่เข้ามาเชียร์พวกเราในนัดนี้ รวมถึงคนที่ดูผ่านทางถ่ายทอดสดด้วย ขอบคุณมากๆที่เชียร์พวกผมและส่งกำลังใจสนับสนุนทีมของเราตลอดมา”
โดยทีมชาติไทย U17 เก็บเก้าคะแนนเต็ม คว้าแชมป์ของกลุ่มดี และผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในช่วงระหว่างวันที่ 3-20 เมษายน 2568 ซึ่งในรายการนี้จะคัดเอา 8 ชาติจากทวีปเอเชีย เป็นตัวแทนไปเล่นฟุตบอลเยาวชนโลก ที่กาตาร์ ต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews