ฉากเมือง”ตู้คอนฯ”112กัน”ลุง”

‘@กลายเป็นฉากใหญ่แบบเบิ้มๆที่กำลังถูกนำไป ”ขยายผล” อีกครั้ง เมื่อวาน (10ธ.ค.) สำหรับ “วันรัฐธรรมนูญ” และ ”วันสิทธิมนุษยชนสากล” ที่ ”ราษฎร” กลุ่มเด็ก ใช้เป็นจังหวะ ”เคลื่อนไหว” แต่เปลี่ยนยุทธวิธีไม่จัดเป็น ”ม็อบ” เป็นแบบตั้งโต๊ะแถลง และ เปิดเวทีสัมมนา ที่อนุสรณ์สถานสี่แยกคอกวัว มุ่งไปที่ประเด็นเฉพาะหน้าที่ได้รับผลกระทบ แต่เป็น”ชนวน”สื่อเชื่อมไปถึงประเด็นที่เคยเรียกร้อง 3 ข้อที่รวมถึงประเด็นการ ”ทะลุเพดาน” ในขณะที่มีภาพคู่ขนานกับการออกมาป่วนของ ”อาชีวะปกป้องสภาบัน” ที่ไปรวมตัวบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและไลฟ์สดขู่พร้อมชน ”ม็อบเด็ก” และการ์ดที่จะเข้ามาบริเวณนั้นกลางดึก ที่หลังจากนั้นช่วงเช้ามืดก็มีเหตุตู้มต้ามของ ”ไปป์บอมบ์” ทีถูกขว้างเข้ามาบริเวณ ใกล้ๆสถานที่ใช้จัดงานจน ”เพนกวิน” ต้องออกมาโพสว่ามีการเปิดเวทีภายในตัวอาคาร https://youtu.be/zDraIxl3UdQ @ขณะกลางดึกจนถึงเช้ามืดวันที่ 10 ธ.ค.เช่นกัน เจ้าหน้าที่ได้มีการลำเลียง ”ตู้คอนเทรนเนอร์” และ ”ลวดหนามหีบเพลง” จำนวนมากมปิดกั้นในหลายจุด ที่มีข่าวว่าจะมีการไปชุมนุม และยื่นหนังสือของ ”ม็อบเด็ก” ที่หน้ายูเอ็น ม็อบคนพิการ ที่กระทรวงพัฒนาสังคม และ ”ม็อบชาวบ้านจะนะ” ที่ก็มาชุมนุมค้างคืนหน้าทำเนียบฯเพื่อมาต่อต้านรัฐบาล ที่กำลังจะไปสร้างท่าเรือน้ำลึกและรุกที่ทำกินซึ่งส่วนใหญ่ทำอาชีพประมงเป็นหลัก แต่ติดแนวบังเกอร์คอนเทนเนอร์และลวดหนามจึงปักหลักที่สะพานชมัยมรุเชษฐ์ @โดยมีการประกาศของ”กองบังคับการตำรวจนครบาล 1” ห้ามบุคคลและยานพาหนะฝ่าแนวเครื่องกีดขวางและอุปกรณ์ หรือห้ามรื้อทำลาย ผู้ใดฝ่าฝืน โทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 1 ปี หลัง เจ้าหน้านำตู้คอนเทนเนอร์ ไปตั้งไว้บนถนนสำคัญ 7 จุดคือ สะพานเทเวศรนฤมิตร ถนนสามแสน สะพานวิศกรรมนฤมาณ ถนนนครราชสีมา สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินนอก สะพานชมัยมรุเชฐ ถนนพิษณุโลก ถนนลูกหลวงบริเวณด้านหน้าสะพานอรทัย ถนนราชดำเนินใน บริเวณหน้าศาลฎีกา ถนนหน้าพระธาตุ บริเวณวัดหน้ามหาธาตุยุวราชรังสฤษธิ์ เพื่อป้องกันสถานที่สำคัญ ทั้งพระราชวังดุสิตและทำเนียบรัฐบาล แม้ผู้ชุมนุมทั้งสองจุดจะยังมีจำนวนไม่มาก @ทำให้เช้าถัดมามีภาพความทุลักทุเลของชาวบ้าน ที่ออกมาดำเนินชีวิต โดยเฉพาะ ภาพผู้เฒ่าผู้แก่ที่ต้องปีนสะพานไปเดินบนท่อยักษ์เพื่อหลบแนวกั้นลวดหนาม ที่ทำให้ ”กลุ่มWevo” ของ ”โตโต้” ออกมาแอ๊คชั่นช่วยรื้อแนวกั้น จนกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่ที่เพิ่มกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชนออกมากดดัน จน”โตโต้”ต้องถอยเพราะกลัวจะเกิดปะทะรุนแรง ขณะที่ด้านเวทีเสวนาที่อนุสรณ์สถานที่มีกิจกรรมแถลงเรียกร้องให้ยกเลิก ม.112 และการแสดงเพลงฉ่อยของ ”เพนกวิน” ก็เกือบจะเกิดเหตุชุลมุนเมื่อมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยศนายพันพยายามเข้าไปเจรจา @เรียกว่าภาพ ”ตัดอารมณ์” ที่ออกมาเมื่อวาน(10ธ.ค.)มีการขยับของ ”ม็อบ” หลายกลุ่มหลายปัญหาที่พุ่งตรงไปที่ ”ลุงทำเนียบฯ” กับฉาก ”ปิดเมือง” ด้วย ”ตู้คอนเทรเนอร์” และ ”หีบเพลง” อย่างตึงเครียด แม้จะด้วยเพราะ ”การข่าว” ที่จะมีการชุมนุมใหญ่ หรือมีการเคลื่อนไหวแบบป่วนเมือง หลังจากที่มีการให้ภาพ ”ยุทธวิธีใหม่” ของ ”เด็กค้อนเคียว” ก่อนหน้านี้ แต่ด้านหนึ่งนอกจากผลกระทบกับชาวบ้านแล้ว ในภาพสะท้อนของวันเชิงสัญลักษณ์ ”วันรัฐธรรมนูญ” และ ”วันสิทธิมนุษยชนสากล” มีผลไม่น้อย โดยเฉพาะในเรื่อง ”สิทธิมนุษยชน” ที่ถูกต่างประเทศโดยเฉพาะสหรัฐยุค ”ไบเดน” กำลัง ”จับตา” กับภาพการมาเรียกร้องของกลุ่มปัญหาของประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้านต่างๆ ไม่นับรวมภาพการกลับมาใช้ ม.112 ที่เคยถูกวิจารณ์จากในและต่างประเทศจน ”ลุง” เคยบอกว่าสถาบันให้หยุดใช้มาแล้ว ที่กำลังถูก ”ท้าทาย” จาก ”ม็อบเด็ก” ที่แม้โดนดำเนินคดีเป็นหางว่าว แต่ก็ยังไม่หยุดเคลื่อนทะลุเพดาน ที่ด้านหนึ่งมีการประเมินว่าเหมือนเป็นการ ”วัดใจ” ของ ”เด็ก” กับ ”ผู้ใหญ่” ว่าจะไปให้สุดแบบที่จับเด็กเข้าคุก หรือจะเลิกใช้กฎหมายนี้