แรงมาก #แบนแม่หยัว ขึ้นเทรนด์ X เหตุวางยาสลบแมว
กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์ เมื่อละครเรื่อง “แม่หยัว” ตอนที่ 5 ที่ออกอากาศล่าสุด ดันมีฉากที่ทำให้เหล่าทาสแมวต้องสะเทือนใจ โดยเป็นฉากที่มีการวางยาแมวในเรื่อง ซึ่งถูกถ่ายทำโดยใช้แมวจริงเข้าฉาก ในฉากจะเห็นว่าแมวตัวนั้นมีอาการกระตุก ตัวเกร็ง และนอนนิ่งไป ทำให้ดูคล้ายกับว่ามันเสียชีวิตจริง ๆ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เหล่าคนรักแมวแสดงความกังวลหนัก และเกิดคำถามขึ้นว่า การถ่ายทำนี้เป็นการทารุณกรรมสัตว์หรือไม่ เพราะภาพที่ปรากฏดูสมจริงเกินไปจนเหมือนว่าแมวไม่ได้แค่แสดงบทบาทแต่ได้รับผลกระทบจริง ๆ จึงเกิดการติดแฮชแท็ก #แบนแม่หยัว ขึ้นเพื่อแสดงความคิดเห็น และเรียกร้องให้ทีมงานออกมาชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นที่เกิดขึ้น
ซึ่งจากกระแสดราม่าทำให้แฮชแท็ก #แบนแม่หยัว พุ่งติดเทรนด์อันดับ 1 บน X อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตตาดีเห็นผู้ใช้ทวิตเตอร์ (X) รายหนึ่ง (คาดว่าน่าจะเป็นทีมงานในกองถ่าย) โพสต์ภาพฉากดังกล่าว พร้อมเขียนข้อความว่า “น้องแมวไม่ได้ตุยจริงน้า เราวางยาสลบแมว แต่ตอนถ่ายทำ แล้วน้องขย้อน กระตุกๆ คือนึกว่าตายจริง ป้าจ๋ากับน้องเฟิร์นหน้าถอดสี ตกใจจริงๆ” ก่อนที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ (X) รายนี้จะลบโพสต์ไป
ต่อมา บิ๊นท์ สิรีธร หนึ่งในทีมนักแสดงละครเรื่องแม่หยัวได้เข้ามาคอมเมนต์ว่า “ต้องมีชื่อเข้าชิง!!” เหมือนกับว่าแมวดำที่เข้าฉากตีบทแตกจนต้องได้รับรางวัล
เมื่อความคิดเห็นดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป เหล่าชาวเน็ตต่างออกมาตั้งคำถามกับ บิ๊นท์ สิรีธร ผู้ที่เป็นนักแสดงและเป็นบุคลากรทางการแพทย์ว่า ไม่เอะใจกับการทารุณกรรมสัตว์เลยหรือ?
หลังจากนั้นไม่นาน บิ๊นส์ ก็ออกมาโพสต์ข้อความขอโทษที่แสดงความคิดเห็นเช่นนั้นออกไปเนื่องจากตนคิดว่ากระบวนการในการถ่ายทำฉากนี้ถูกต้อง และมีบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงมีการเซฟชีวิตแมวตัวดังกล่าว
จากกระแสที่เกิดขึ้นทำให้ทีมละคร โดยผู้กำกับ สันต์ ศรีแก้วหล่อ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Sant Srikaewlaw ระบุว่า
อัพเดทน้องแมว
จากที่มีหลายท่านกังวลเรื่องการถ่ายทำที่เกี่ยวกับน้องแมว ขอเรียนชี้แจงดังนี้ครับ
1.การถ่ายทำมีการวางยาสลบจริง แต่ได้รับการดูแลจากเจ้าของและผู้เชี่ยวชาญอย่างดีในทุกๆขั้นตอน
2.หลังการถ่ายทำน้องแมวฟื้นขึ้นมาและใช้ชีวิตเป็นปกติ และ ทีมงานได้มีการขอคลิปสุขภาพน้องแมวให้ส่งมาดูหลังจากวันถ่ายทำอีกหลายครั้ง
3.แต่เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย เมื่อทราบเรื่องวันนี้ ทางทีมได้มีการติดต่อโมเดลลิ่งสัตว์ที่ดูแลรับผิดชอบ ให้ถ่ายคลิปอัพเดทของวันนี้ และให้นำแมวไปตรวจสุขภาพ เพื่อยืนยันถึงสุขภาพแมวอีกครั้ง
4.เมื่อทราบถึงความกังวลใจ เราไม่ได้นิ่งนอนใจ และกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อมาชี้แจงครับ
และนี่คือคลิปน้องแมว ณ ปัจจุบันครับ ส่วนใบรับรองแพทย์จะนำมาให้ทุกท่านดูอีกครั้งเมื่อตรวจสุขภาพน้องแมวเสร็จเรียบร้อยครับ
อย่างไรก็ตาม หลายคนยังมองว่าผู้กำกับชี้แจงไม่เคลียร์ และเรียกร้องข้อมูลเพิ่มเติม เช่น
- ผู้เชี่ยวชาญเป็นสัตวแพทย์หรือไม่ ขอให้เปิดชื่อมาเลย
- ขั้นตอนการวางยาและการดูแลแมวเป็นอย่างไร ขอให้ผู้เชี่ยวชาญที่ว่าออกมาชี้แจง
- ขอให้เปิดชื่อโมเดลลิ่งและหลักฐานการจ้างหาแมวดำ เพื่อให้ประชาชนสบายใจว่าแมวในละครกับแมวในคลิปเป็นแมวตัวเดียวกันจริง เพราะบางคนเชื่อว่าอาจเป็นคนละตัวกัน
ในประเด็นนี้เพจ สัตวแพทยสภา ประเทศไทย ได้ออกมาเคลื่อนไหว โดยระบุว่า “ตามที่มีหลายท่าน ได้ส่งภาพของแมวซึ่งปรากฏในสื่อโซเชียลมีเดียขณะนี้ และมีข้อกังวลจากการอ้างถึงว่าอาจมีการใช้ยาสลบ ในการถ่ายทำละคร ทางสัตวแพทยสภา ได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวแล้ว และจะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ขณะที่ เพจเฟซบุ๊ก “วิภาวดีสัตวแพทย์” ให้ข้อมูลว่าการวางยาสลบสัตว์ ต้องทำโดยสัตวแพทย์ ตามกฎหมาย พ.ร.บ.วิชาชีพการสัตวแพทย์ และโดยจรรยาบรรณ สัตวแพทย์จะไม่วางยาสลบสัตว์เพื่อความบันเทิง และการวางยาสลบสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว กระต่าย มีความเสี่ยง ทั้งความดันตก อุณหภูมิร่างกายตก การไหลเวียนของเลือดผิดปกติ รบกวนการหายใจ และบางตัวอาจแพ้ยาสลบ ฟื้นช้า หรือไม่ฟื้นจากยาสลบ
ความคิดเห็นจากชาวเน็ตหลังจากกระแสวางยาสลบแมว อาทิ
“ผมขอพูดในฐานะคนที่เลี้ยงแมว ออกหน่วยจับแมวจรมาทำหมันบ่อยๆ ด้วยการใช้ยาสลบหรือยาซึม ลักษณะของน้องจากในหนังเรื่องนี้ อาการนี้คือน็อคยา ความน่าจะเป็นคือน้องถูกวางยาสลบโดยไม่ได้อดน้ำอดอาหาร ทำให้อาหารขึ้นมาอุดช่องปอด สำลักอาหาร อาการนี้ตาลอยแล้วครับ สังเกตได้ไฟกระทบตาม่านตาไม่ปรับเปลี่ยน
ซึ่งน่าจะรู้กันดีว่า ผลของมันคือน้องน่าจะไม่อยู่แล้ว แต่ทางช่องเงียบกริบไม่พูดอะไรเลย ปกติคุณภาพของหนังที่ดีและในยุคสมัยนี้เราใช้ mock up แทนการใช้สัตว์จริงเข้าแสดงแล้วครับ โดยเฉพาะสัตว์ที่ต้องบาดเจ็บล้มตาย แต่ทางช่องนี้ใช้วิธีการวางยาสลบแมวของจริง รับว่าทำจริง อ้างว่ามีหมอประจำหน่วยกองถ่าย ผมก็ขอพูดอีก เคยไปออก event ที่มีสัตว์เลี้ยงเยอะๆ บอกได้เลยครับคุณหมอชื่ออะไร เพราะ certificate ที่มีคุณกับคุณหมอที่ไปออกกองถ่ายด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายช่องก็ยังเงียบกริบ!!!”
“คุณสามารถสร้างละครดีๆๆได้โดยไม่ต้องทารุณกรรมสัตว์ ไม่ต้องเอาชีวิตสัตว์เลี้ยง มาสังเวยผลงานคุณ. ฉากนี้คิดได้ไง น่ารังเกียจที่สุด”
“คนเลี้ยงสัตว์จะรู้ดี ถ้าน้องป่วยจนถึงขั้นต้องวางยาสลบ หมอจะกำชับมากๆ ว่าให้อดข้าวอดน้ำเป็นเวลากี่ชั่วโมงบ้าง ไม่งั้นจะวางยาสลบไม่ได้ แล้วอันนี้วางยาน้องทั้งๆ ที่ข้าวน้ำเต็มพุง คนในกองไม่มีสักคนที่มีสมองเลยเหรอ”
“ทำร้ายแม่กระทั่งสัตว์ตัวเล็กๆ ที่ไม่ได้มีพิษมีภัยไม่ได้ทำร้ายใครเลย ละครไทยตกต่ำ ต่ำทรามขนาดนี้เลยเหรอคะ ผู้จัด ช่องวันออกมาชี้แจงหน่อยมั้ยคะ คนในกอง สตาฟ นสด.ไม่เอ๊ะไม่แย้งกันหน่อยเลยเหรอ” ฯลฯ
นอกจากนี้คนยังมองว่าน้องแมวจะตายหรือรอดไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือไม่ควรทำอย่างนี้ตั้งแต่แรก และในเมื่อสัตว์พูดไม่ได้ คนรักสัตว์ก็จะพูดให้เอง นำไปสู่การรณรงค์ไม่ดูละครเรื่องนี้, เรียกร้องให้ถอนสปอนเซอร์, ขอให้ถอดออกจาก Netflix และพร้อมใจกันติดแฮชแท็ก #แบนแม่หยัว จนติดเทรนด์ X ยอดโพสต์กว่า 4 แสนครั้งแล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews