เทสโก้ อังกฤษ โล่ง ปิดดีลประวัติศาสตร์ ขายกิจการในไทยและมาเลเซียสำเร็จ หลุดบ่วงวิกฤติเศรษฐกิจ พร้อมปักหลักธุรกิจในยุโรปเท่านั้น มั่นใจความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ระดับโลกของซีพีจะนำพาธุรกิจเติบโตก้าวหน้า พร้อมยกระดับคู่ค้าเติบโตไปพร้อมกันในระดับภูมิภาค นอกจากนี้พนักงาน และคู่ค้าในไทย และมาเลเซีย ชื่นมื่นหลังทราบข่าวดี เพราะถือเป็นการรักษาความมั่นคงทางอาชีพในช่วงวิกฤต และในส่วนคู่ค้ายังถือเป็นการเปิดตลาดใหม่ให้ SME สามารถนำสินค้าไปขายในต่างประเทศ ซึ่งต้องอาศัยบริษัทขนาดใหญ่ไปช่วยเปิดตลาดในภูมิภาค และ เชื่อมั่นว่า ศักยภาพผู้ประกอบการเล็ก กลาง ใหญ่ของไทย สามารถแข่งขันได้ในระดับภูมิภาค รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน สหราชอาณาจักร ระบุว่า TESCO UK ได้แจ้งว่า บริษัท ซี.พี.รีเทล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ได้เห็นชอบเงื่อนไขการซื้อขายเทสโก้สโตร์ในไทยและมาเลเซียแล้ว โดยจะแจ้งข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งเมื่อธุรกรรมเกี่ยวกับการซื้อขายได้เสร็จสิ้นในวันที่ 18 ธันวาคมนี้ มร. Ken Murphy ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TESCO UK กล่าวว่า กระบวนการขายธุรกิจจะเสร็จสมบูรณ์ในเร็ว ๆ นี้ ขอขอบคุณเพื่อนพนักงานในไทยและมาเลเซียที่ได้ทำหน้าที่ในเอเชียอย่างยอดเยี่ยมมานานกว่า 20 ปี ได้สร้างธุรกิจที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาที่ประสบวิกฤติโควิด-19 และมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่ากิจการ TESCO ภายใต้เจ้าของธุรกิจใหม่จะเติบโตก้าวหน้า เนื่องจากเครือซีพีเป็นธุรกิจชั้นนำในไทย มีประสบการณ์ในตลาดทั่วภูมิภาคเอเชีย และยังมีความเชี่ยวชาญรวมถึงประสบการณ์ในธุรกิจค้าปลีก สิ่งเหล่านี้จะนำมาซึ่งความสำเร็จในอนาคต “การขายธุรกิจในเอเชีย จะทำให้สามารถโฟกัสกับธุรกิจและบริการลูกค้าในทวีปยุโรป และจะทำให้กลุ่มเทสโก้สามารถปันผลให้กับผู้ถือหุ้นและเติมเงินจำนวน 2,500 ล้านปอนด์เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับกองทุนเกษียณอายุพนักงานได้” ซีอีโอ TESCO UK ระบุถ้อยแถลงนี้ในเอกสารที่สื่อสารถึงพนักงาน TESCO UK ซีอีโอของ TESCO UK คงโล่งอก หลังจากที่TESCO UK ต้องตกอยู่สถานการณ์คาราคาซังมานานเกือบ 9 เดือน เนื่องจากต้องรอการพิจารณาจากคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า หรือ กขค. อนุญาตเรื่องควบรวมกิจการของซีพีกับเทสโก้โลตัสในไทยหลังจากที่ TESCO UK ได้เคาะโต๊ะเลือกซีพีผู้ลงทุนรายใหญ่จากประเทศไทยให้เป็นเจ้าของเทสโก้โลตัสในไทยและมาเลเซียชนะผู้ลงทุนอีก 2 รายใหญ่จากไทยเช่นกัน คือ เซ็นทรัล และไทยเบฟ ซึ่งส่งผลให้การดำเนินกิจการในประเทศไทยไม่สะดุด พนักงานทุกคนยังคงมีงานที่มั่นคง และ คู่ค้ายังคงมีเงื่อนไขทางการค้าแบบเดิม มีความมั่นใจในความต่อเนื่องของธุรกิจไปแม้นในภาวะโควิด-19 ก็ตาม นอกจากนี้กลุ่มซีพียังเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนที่ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวน์โจนส์ (Dow Jones Sustainability Index : DJSI) สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานว่า บริษัทเทสโก้ในอังกฤษ มีแผนจะนำเงิน 6,600 ล้านดอลลาร์ (1.98 แสนล้าน)ที่ได้จากการขายกิจการให้ซีพีคืนให้แก่บรรดาผู้ถือหุ้นเทสโก้ และส่วนที่เหลือจะนำมาใช้ในการดำเนินธุรกิจธุรกิจค้าปลีกที่มุ่งเน้นเฉพาะตลาดอังกฤษและในยุโรปเท่านั้น แต่เมื่อเกิดวิกฤติโควิด-19 และมาประสบกับอุปสรรคในไทยที่การซื้อขายนี้จะต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า หรือ กขค. ก็ทำให้ TESCO UK หวาดหวั่นอยู่ไม่น้อย ทันทีที่คณะกรรมการ กขค.จากไทยมีมติให้ควบรวมกิจการได้ TESCO UK จึงเหมือนยกภูเขา ออกจากอก รอเพียงแต่ให้ทางเครือซีพีพิจารณาเงื่อนไข 7 ข้อที่กำหนดไว้ในมติ กขค. ซึ่งมาถึงวันนี้เป็นที่ทราบอย่างไม่เป็นทางการว่าซีพีได้เห็นชอบการซื้อขาย TESCO UK จึงถือได้ว่าเป็นข่าวดีทั้งกับผู้ถือหุ้นของเทสโก้อังกฤษที่ได้ร่บเงินปันผล และพนักงานที่จะได้รับประโยชน์ อีกกว่า 2,500 ล้านปอนด์เข้าสู่กองทุนบำนาญของบริษัท TESCO UK เป็นเจ้าของกิจการค้าปลีกรายใหญ่ของสหราชอาณาจักร ค้าปลีกใหญ่อันดับสองของโลก มีกิจการค้าปลีกภายใต้ชื่อ TESCO กระจายอยู่ทั่วโลก ทั้งนี้ TESCO ประสบวิกฤติมาตั้งแต่ปี2557 ผลประกอบตกต่ำ กำไรหดหาย เนื่องจากคู่แข่งทำต้นทุนได้ถูกกว่า จนต้องทยอยปิดสาขาที่กระจายอยู่ทั่วโลก และต่อมาเพื่อผู้บริโภคมีพฤติกรรมซื้อขายออนไลน์มากขึ้น TESCO UK ก็ยิ่งได้รับผลกระทบมากขึ้น ยอดขายล่าสุดของ TESCO ทั่วโลก สิ้นสุด ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2563 อยู่ที่ 56.5 พันล้านปอนด์ ( £56.5 bn) มีสาขากระจายอยู่ทั่วโลกประมาณ 6,707 แห่ง มีพนักงานกว่า 450,000 คน ปี 2010 ขายกิจการในฝรั่งเศส ปี 2013 ขายกิจการในจีน ญี่ปุ่น และ สหรัฐอเมริกา ปี 2015 ขายกิจการในเกาหลีใต้ ปี 2016 ขายกิจการในตรุกี ปี 2020 ขายกิจการในโปแลนด์ ไทย และมาเลเซีย
ข่าว
ซีอีโอเทสโก้ขอบคุณพนักงานในไทย มาเลเซีย
11 ธันวาคม 2020 - 13:30