เชียงใหม่ เดินหน้ารณรงค์ 16 วันแห่งการเคลื่อนไหวต่อต้านความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศ “ต่อต้านการค้ามนุษย์รูปแบบออนไลน์เซ็นเตอร์ในผู้หญิง” สร้างความตระหนักรู้ในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ อาชญากรรมและภัยอันตรายทางไซเบอร์
ที่ลานก้ามปู จริงใจมาเก็ต อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดงานรณรงค์ 16 วันแห่งการเคลื่อนไหวต่อต้านความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศ “ต่อต้านการค้ามนุษย์รูปแบบออนไลน์เซ็นเตอร์ในผู้หญิง” โดยจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกับมูลนิธิเพื่อความเข้าใจเด็ก FOCUS มูลนิธิศูนย์เพื่อน้องหญิง พมจ.เชียงใหม่ ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ตำรวจภูธร ภาค 5 รวมทั้งหน่วยงานและองค์กรพันธมิตรทั้งในประเทศและระดับนานาชาติมากกว่า 26 หน่วยงาน
โดยการสนับสนุนจาก โครงการความร่วมมือระหว่าง UN Women กับรัฐบาลญี่ปุ่นและจากมูลนิธิไดอาโกเนีย ประเทศไทย (Diakonia Thailand) จัดกิจกรรมรณรงค์ดังกล่าวขึ้น เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์นผู้หญิง และอาชญากรรมและภัยอันตรายทางไซเบอร์
ทั้งนี้ กิจกรรม 16 วัน แห่งการรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงต่อสตรีและเด็กหญิง เป็นแคมเปญนานาชาติที่จัดขึ้นทุกปีระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันขจัดความรุนแรงต่อสตรีสากล จนถึงวันที่ 10 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันสิทธิมนุษยชน ภายในงานมีการ ปาฐกถา ในหัวข้อ การสร้างความเข้มแข็งของชุมชนเพื่อป้องกันความรุนแรงต่อสตรีและการค้ามนุษย์
โดย นางสาวกรวิไล เทพพันธ์กุลงาม ผู้แทน UN Women Thailand และการมอบ ทุนการศึกษาและประกาศนียบัตร ผู้ชนะการประกวดภาพถ่าย และภาพวาด ภายใต้หัวข้อ “Invisible Scars: บาดแผลที่มองไม่เห็นของเหยื่อบนโลกไซเบอร์” นอกจากนี้ยังมีเวทีสนทนากับผู้เชี่ยวชาญ ในประเด็น “การค้ามนุษย์และการแสวงประโยชน์ทางไซเบอร์ต่อผู้หญิงและเด็ก” การจัดบูธนิทรรศการ ซึ่งมีทั้งความรู้เกี่ยวกับภัยที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงและเยาวชน, ภารกิจและบริการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง, ช่องทางการติดต่อขอความช่วยเหลือ, เกมส์และเวิร์คชอป พร้อมรับของรางวัลพิเศษจากการร่วมกิจกรรม การแสดงดนตรีโฟล์คซอง” ด้วย
ปัจจุบันพบว่า ความมั่นคงของผู้คนได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าทุกคนมีโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือ ซึ่งสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์และสื่อสารกันได้อย่างอิสระ “กลุ่มขบวนการการค้ามนุษย์” ก็เช่นเดียวกัน โดยพบว่าการก่ออาชญากรรมโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับออนไลน์เซ็นเตอร์กำลังแพร่หลาย จากหลักฐานหลากหลายแห่งชี้ว่า 20-40% ของเหยื่อในออนไลน์เซ็นเตอร์ เป็นสตรีและเด็กหญิงซึ่งหากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข จะส่งผลต่อความมั่นคงและสันติภาพในสังคมอย่างร้ายแรง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews