Home
|
ข่าว

“ชูศักดิ์” สั่งพศ.เข้มสำนักสงฆ์ใช้ศพฝึกจิต ทำไม่ได้

Featured Image
“ชูศักดิ์” สั่งการสำนักพุทธ ทำงานเชิงรุก กำหนดมาตรการคัดกรองพระก่อนบวช เข้มดื่มสุรา-ยาเสพติด งดใช้โซเชียลเพื่ออนาจาร ป้องกันคนมีคดี ใช้ผ้าเหลืองเป็นเกราะกำบัง – ชี้ สำนักสงฆ์ใช้ศพฝึกจิต ทำไม่ได้

 

 

 

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แถลง แนว นโยบายการป้องกันและคุ้มครองพระพุทธศาสนาเดี๋ยวระบุว่า ตามแนวนโยบาย ในการคุ้มครองอุปถัมป์พระพุทธศาสนาเป็นนโยบายสำคัญ ซึ่งมีนโยบายในการคุ้มครอง พระพุทธศาสนาทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งจากการที่ตนเข้ามาทำงานในระยะหนึ่ง มีการสอบถามถึงเรื่องที่ดินของวัด การเล่นแชร์ ว่า ทำได้หรือไม่ และถือว่าทำลายพระพุทธศาสนาหรือไม่ ถึงได้มีการหารือ จนมีข้อสรุปว่า ต้องออกมาตรการป้องกันพระพุทธศาสนา โดยได้สั่งการให้สำนักพระพุทธศาสนา ดำเนินการ

 

1.กำหนดแนวทางไม่ให้มีการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การเสพยาเสพติด เล่นพนัน โดยเฉพาะในบริเวณวัด
2. กำหนดมาตรการที่มีประสิทธิภาพ ไม่ให้พระสงฆ์ประพฤติผิดธรรมวินัย เช่น การเสพยาเสพติด เล่นพนัน เสพเมถุน ดื่มสุรา การใช้สื่ออนไลน์ เล่นพรัน หรือเพื่อสื่อลามกอนาจาร
3.สอดส่องไม่ให้มีการนำสิทธิทางพระพุทธศาสนาไปบิดเบือน หรือแสวงหาประโยชน์ทางพาณิชย์ โดยมิชอบ
4.สอดส่องติดตามและดำเนินการเด็ดขาด กรณีแต่งกายเลียนแบบสงฆ์
5.มีมาตรการดูแลพระที่ประพฤติดี ประพฤติชอบ ไม่ให้ภูกกลั่นแกล้ง
6. คัดกรองบุคคลทีจะอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เพื่อป้องกันไม่ให้ ผู้ติดยาเสพติด ประพฤติเสื่อมเสีย เพื่อหลบหลีกการกระทำผิด หรือมาอาศัยผ้าเหลืองเป็นเกราะกำบัง
7.ให้สำนักพุทธ จัดตั้งศูนย์ ทุกจังหวัดหรือจังหวัดใดที่มีอยู่แล้วให้ปรับปรุงการทำงานเพื่อรับเรื่องร้องเรียนและดำเนินการแก้ไข ได้ทันท่วงที
8.ให้ประชาชน มีส่วนร่วมในหารทำนุบำรุงศาสนา

 

 

อย่างไรก็ตาม สำนักพระพุทธศาสนามีอยู่ทั่วประเทศ แต่ที่ ผ่านมาตั้ง เป็นการทำงานในที่ตั้ง จึงสั่งการให้มีการเปลี่ยนการทำงานเป็นแบบเชิงรุกโดยระบบเข้าไปสอดส่องดูแล พฤติกรรมที่คิดว่าไม่ถูกต้องและเป็นการทำลายพระพุทธศาสนา ให้ดำเนินการตามนโยบาย เพื่อป้องกันการทำลายพระพุทธศาสนาทุกรูปแบบทั้งทางตรงและทางอ้อม

 

 

ขณะเดียวกัน ได้มีการมอบหมายให้สำนักพุทธ เป็นเลขานุการในการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อแก้ปัญหาการใช้ที่ดิน ของวัดและสำนักสงฆ์ ที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ เพราะบางกรณีไม่ใช่ที่ดินของวัดโดยตรงอาจจะไปรับส่วนที่ดินของรัฐ หรือที่ดินอื่นบ้าง จนนำมาสู่ปัญหาข้อพิพาท จึงมองว่าปัญหาเรื่องนี้ควรทำเป็นระบบ

 

 

อย่างกรณีเมื่อวานนี้มีการนำศพไปฝึกจิตที่จังหวัดพิจิตร ก็ต้องนำเข้ามาหารือกันว่าทำได้หรือไม่ ซึ่งถือว่าเป็นในมาตรการ ที่ต้องมากำกับดูแลไม่ให้เกิดขึ้น ซึ่งกรณีนี้ตนก็ไม่เคย เห็นจึงมอบสำนักพุทธไปหารือกับคณะสงฆ์ โดย ในส่วนตัวตนคิดว่าไม่สามารถทำได้

 

 

ส่วนที่มีการพบว่า มีอีกหนึ่งสำนักสงฆ์กรณีเดียวกันและมีบุคคลเดียวกันเป็นเจ้าของตรวจพบว่าขณะนี้รวมแล้วเป็น 71 ศพ เมื่อตรวจสอบแล้ว พบว่าในกรณีนี้ไม่สามารถทำได้ก็ต้องพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไปเช่น มาตรการห้ามปราม ไม่ให้ทำ หากเข้าข่ายความผิดอาญาก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและหากเข้าในเรื่องของวินัยก็ให้คณะสงฆ์เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยาก

 

 

ส่วนจะยืนยันได้อย่างไรว่าจะเป็นการทำงานที่ เป็นเชิงรุก จริงๆ เพราะที่ผ่านมาต้องรอให้มีข่าวก่อนถึงลงไปแก้ไข นายชูศักดิ์ ยืนยันว่า ปัจจุบันมีสำนักสงฆ์อยู่ ทั่วราชอาณาจักร การทำงานจะไม่ใช่แค่การไปร่วมงานหรือไปจัดงานแบบที่ผ่านมา โดยตรก็จะมีทีมงานติดตาม และ ให้หารายงาน มาอย่างตนโดยตรง

 

 

ผู้สื่อข่าว ยังถามถึงกรณีคนตื่นธรรม ว่าได้ติดตามหรือไม่เพราะขณะนี้คนให้ความสนใจและหันไปศรัทธาคนตื่นธรรม จะหมายความว่าคนไม่ศรัทธาและเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา นายชูศักดิ์ ระบุว่าการทำลายพระพุทธศาสนามีทั้งโดยคณะสงฆ์เอง และบุคคลภายนอกบุคคลอื่น ฉะนั้นคณะสงฆ์ก็ต้องไปดูตัวเอง พร้อมอย่างว่าต่อไปให้ปฏิบัติตามแนวนโยบาย

 

 

ส่วนที่มองว่าคนเชื่อและศรัทธาคนตื่นธรรมมากกว่าพระ นั้น ขออย่าเพิ่งไปสรุปขนาดนั้น เพราะวัดยังเป็นที่พึ่งพาและเป็นสถาบันที่เป็นหลักของ พระพุทธศาสนา เพียงแค่ ให้ ตระหนักว่า มีสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ก่อนก็ต้องรีบแก้ไข

 

 

 

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube