“รมว.ยุติธรรม” ยัน “โกทร” ไม่มีอภิสิทธิ์เหนือผู้ต้องขังรายอื่น – ไม่เข้าเกณฑ์พักโทษแม้จะอ้างอายุเยอะ- มีโรคประจำตัว เหตุคดียังไม่เด็ดขาด
วันนี้ (21 ธ.ค.67) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยคดีการเสียชีวิตนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้งภายในบ้านพักของ นายสุนทร วิลาวัลย์หรือโกรทร สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง7 ราย รวมทั้งนายโกทร ว่า เรื่องดังกล่าวเป็นอำนาจขอศาลจังหวัดปราจีนบุรี ที่พนักสอบสวนกองปราบปรามจะต้องขอให้ศาลพิจารณาอนุญาตในการย้ายเรือนจำมาอยู่ที่กรุงเทพฯ
แต่ในคดีนี้อยู่ในขอบเขตอำนาจของกองปราบปราม ซึ่งมีอำนาจการสอบสวน ทั่วประเทศจึงไม่จำเป็นต้องย้ายเรือนจำก็ได้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของพนักงานสอบสวนกองปราบปรามว่าจะขอหรือไม่ ซึ่งการย้ายผู้ต้องหาจะต้องย้ายทั้งหมด 7 คนเนื่องจากเป็นสำนวนเดียวกัน ส่วนการย้ายผู้ต้องหา ยืนยันว่ากำลังพลของกรมราชทัณฑ์มีเพียงพอในการดูแลอยู่แล้ว แต่อาจจะขอกำลังเสริมจากตำรวจช่วยอำนวยความสะดวกเพิ่มเพื่อความรอบคอบในการเคลื่อนย้าย
ทั้งนี้ หากได้รับการอนุมัติจากศาลคาดว่าจะย้ายตัวผู้ต้องหาไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เนื่องจากเป็นผู้ต้องในระหว่างการต่อสู้คดี ส่วนกรณีจะแยกแดนคุมขังนายโกทร กับลูกน้องหรืออยู่รวมกัน ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ ผบ.เรือนจำ แต่ แต่การคุมขังจะไม่อยู่กับอริหรือคู่ขัดแย้ง
ส่วนเงื่อนไขในการเข้าเยี่ยมเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของราชทัณฑ์ที่ ปฏิบัติกับผู้ต้องขังทุกรายตามปกติโดยไม่มีอภิสิทธิ์ เพราะตัวผู้ต้องหาจะไปต่อสู้คดีจะต้องให้โอกาสพบกับทนายอยู่แล้ว ส่วนผู้เข้าเยี่ยม ต้องมีรายชื่อชัดเจนใน 10 รายชื่อที่ผู้ต้องหาแจ้งไว้ว่าให้เยี่ยม แต่หากเป็นบุคคลที่นอกเหนือรายชื่อก็แล้วแต่ผู้ต้องหาพิจารณา ส่วนนายโกทร
จะมีเงื่อนไขเรื่องอายุเยอะและมีอาการป่วยหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพยาบาลในการพิจารณาก่อน ก่อนเสนอให้ ผบ. เรือนจำ เป็นผู้อนุมัติในการส่งตัวผู้ต้องขัง ไปรักษาในโรงพยาบาลเครือข่ายของกรมราชทัณฑ์ เหมือนกันทุกคดีเช่นเดียวกับกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่หากส่งไปแล้วตรวจสอบแล้วว่าไม่ป่วยจริงก็ต้องส่งตัวกลับ
ส่วนกรณีที่นายโกทร อายุ 85 ปี และมีอาการป่วยจะใช้เป็นข้อกล่าวอ้างในการขอพิจารณาพักโทษหรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่าไม่ได้เพราะไม่เข้าเกณฑ์ เพราะต้องเป็นเป็นคดีที่ศาลตัดสินเด็ดขาดแล้วจึงจะเข้าเกณฑ์พักโทษได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews