สน.ประชาสำราญ เลี้ยงปลาเพื่อเป็นสวัสดิการตำรวจ
ไอเดียเจ๋ง! ผกก.ประชาสำราญ จัดโครงการ “เลี้ยงปลา” เพื่อสวัสดิการตํารวจ วางแนวทางต่อยอดให้ยั่งยืน
สถานีตำรวจนครบาลประชาสำราญ ตั้งอยู่บนพื้นที่ ถ.ประชาสำราญ แขวงคลองสิบสอง เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร เป็นสถานีตำรวจ ที่อยู่ชายขอบของกรุงเทพมหานคร โดยภาพรวมของสถานีตำรวจแห่งนี้ จะมีพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ตั้งของอาคารสถานีตำรวจ และพื้นที่บางส่วนถูกพัฒนาเป็นบ่อเลี้ยงปลาเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์กับข้าราชการตำรวจในสังกัด พ.ต.อ.วุฒิไกร จตุรงค์เสรีกุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลประชาสำราญ ได้ให้แนวนโยบาย ในการริเริ่มโครงการเพื่อเป็นสวัสดิการให้กับข้าราชการตำรวจในพื้นที่
พ.ต.อ.วุฒิไกร ให้ข้อมูลว่า พันธุ์ปลาที่นำมาเลี้ยงในบ่อปลาแห่งนี้ เป้นปลาน้ำจืด ประกอบด้วย ปลานิล ปลาทับทิม และตะเพียน จำนวน 12,000 ตัว ได้รับการสนับสนุนจากกรมประมงเพื่อนำมาปล่อยไว้ในบ่อแห่งนี้ ส่วนเรื่องอาหารปลาจะใช้เป็นอาหารเม็ด โดยได้รับการสนับสนุนจาก กต.ตร. ส่วนหนึ่ง และโรงงานขนมปัง ที่นำเศษขนมปัง มามอบให้กับทางตำรวจ เพื่อใช้เป็นอาหารเลี้ยงปลา ซึ่งปลาเหล่านี้เลี้ยงมาแล้วประมาณ 6 เดือน และช่วงเดือน ก.พ. จะให้พ่อค้าแม่ค้า มาประเมินว่า ไซส์ของปลา พอที่จะขายได้แล้วหรือไม่ หากขายได้ ก็จะให้เขามาจับ และเนื่องจากเป็นโครงการนำร่อง ซึ่งตำรวจเองไม่ได้มีความชำนาญในการเลี้ยงปลามากนักแต่ก็ได้คนในชุมชนมาช่วยให้คำแนะนำ สำหรับการดูแลให้อาหารปลา จะใช้วิธีมอบหมายให้สายตรวจที่เข้าเวรเช้า – บ่าย ก่อนจะออกตรวจ ก็ให้แวะให้อาหารปลา ก่อนจะออกไปปฏิบัติงาน
หลังจากขายปลาได้แล้ว เงินส่วนหนึ่งจะกันไว้เป็นค่าอาหารปลาที่จะเลี้ยงในลอตต่อไป และเงินจากการขายอีกส่วนหนึ่ง เก็บไว้เป็นกองทุนเพื่อให้ตำรวจกู้ยืม คิดว่าการทำโครงการแบบจะหมุนเวียนเลี้ยงปลา ในลักษณะนี้ จะมีปลาขายทุกปี และเงินกองทุนก็จะเพิ่มมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นการช่วยเหลือตัวเองแบบพึ่งพาตนเองของตำรวจ เพราะว่าถ้าเราต้องไปพึ่งคนอื่น มันก็จะกลายเป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ถ้าเป็นแบบนี้ตำรวจสามารถพึ่งพาตนเองได้และจะมีเงินสำหรับให้ลูกน้องกู้ยืม เพื่อบรรเทาภาระหนี้สินของตำรวจเอง เพราะจะเป็นกองทุนให้กู้ยืมแบบไม่คิดดอกเบี้ย และสามารถผ่อนจ่ายได้เดือนละ 500 บาท หรือเดือนละ 1,000 บาท ตามกำลังที่จะจ่ายคืนได้
ผกก.ประชาสำราญ ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับโครงการนี้เป็นโครงการนำร่องเนื่องจากตนเอง เพิ่งย้ายมาได้เพียงปีเดียว แต่จะวางรูปแบบทำโครงการเลี้ยงปลา เป็นแนวทางไว้เพื่อให้ยั่งยืนในอนาคต เพราะมองว่านายตำรวจตั้งแต่ระดับสารวัตรขึ้นไป มีโอกาสโยกย้ายได้ตลอดเวลา จึงไม่อยากให้มองว่า เมื่อเราไปแล้ว โครงการนี้หายไป แต่อยากให้ตำรวจรักษาโครงการนี้ไว้เพราะโรงพักที่อยู่จะเป็นชานเมืองและ 60% ของพื้นที่ จะปลูกข้าว เลี้ยงปลาดุก เพราะฉะนั้นถ้าเราอยู่ได้ด้วยตัวเองก็ไม่จำเป็นต้องง้อใคร
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews