“เจมิไนน์-โฟร์ท” แฮปปี้เป็นหน้ากากหยินหยาง ลั่นสนุกได้ทำอะไรแปลกใหม่

นักแสดงคู่จิ้น “เจมิไนน์-โฟร์ท” แฮปปี้เป็นหน้ากากหยินหยาง ลั่นสนุกได้ทำอะไรแปลกใหม่ ชี้เป้าหน้ากากคู่ต่อสู้คือ “เจฟ” และ “โบกี้”

 

สิ้นสุดการคาดเดาแล้วว่าโฉมหน้าของผู้ที่อยู่ใต้หน้ากาก “หยินหยาง” คือใคร? หลังรายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง เฉลยแล้วว่า หน้ากาก”หยินหยาง” คือ “เจมิไนน์-โฟร์ท” นักแสดงซีรีส์วายชื่อดัง หลังจากหลุดโป๊ะหลายรอบจนโดนจับได้ โดยล่าสุดทั้งคู่ได้ออกมาเปิดเผยว่า

 

เป็นไงบ้างกับหน้ากาก ”หยินหยาง”?

เจมิไนน์ : “ก็ดีครับ ได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำดี แล้วก็เรียกได้ว่าเป็นความฝันอย่างนึง เราดูรายการนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ รู้สึกว่าไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้ไปด้วยซ้ำ พอมีโอกาสได้ไปก็รู้สึกดีใจ ได้ร้องเพลง ได้คิดเพลง คิดนู่นนี่ หวังว่าทุกคนจะชอบครับ”

 

ทำไมต้องเป็น “หยินหยาง” ?

โฟร์ท : “ด้วยคาแรคเตอร์พวกเราดูแตกต่างกัน อีกคนนึงชอบอย่างนึง อีกคนนึงชอบทำอย่างนึง แต่ว่าความที่หยินหยางอยู่ด้วยกันรู้สึกว่ามันเข้ากัน มันเป็น perfect match”

 

อันไหนยากสุดระหว่าง การใส่ชุด หรือการต้องหลอกคนอื่นว่าไม่ใช่เรา?

โฟร์ท : “การหลอกคนอื่นว่าไม่ใช่เราคือยาก เพราะว่าเป็นคนไม่เคยหลอกคนอื่น เป็นคนจริงใจ ความยากอีกอย่างนึงคือทุกคนผมอยากระบายมากว่าในหน้ากากมันร้อนมาก ผมเป็นคนขี้ร้อน เหงื่อออกเยอะมาก บางทีอยู่ในหน้ากากเหมือนจะเป็นลม พอเขาส่งมาว่าให้เต้นคือผมแบบ โอ้ย ผมโอ้ยในหน้ากากแต่เขาไม่เห็นหรอกว่าผมโอ้ย ผมก็ทำเป็นเต้น แบบเต้นอีกแล้วหรอ มันเหนื่อยมากแต่ว่าสนุก สนุกที่เราได้ปลอมตัวเป็นใครก็ไม่รู้ พยายามปลอมแล้วครับผม”

 

ซึ่งคนก็ดูไม่ออกเลยว่าเป็น “เจมิไนน์-โฟร์ท” ตอนออกอากาศเทปแรก?

เจมิไนน์ : “ผมว่าตั้งแต่มีออกมาเขาก็ทายกันได้เลยว่าอันนี้ดูเป็นผม”

 

ของเจมิไนน์ยากตรงไหน ใส่หน้ากากหรือใส่ชุด หรืออะไร?

เจมิไนน์ : “ผมพยายามจะแปลงเสียงแล้ว แต่ว่าพอไป ๆ มา ๆ กลัวถอดหน้ากากออกมาแล้วคนไม่รู้จัก ก็เลยทำให้เป็นเสียงตัวเองอย่างน้อยแฟนคลับเราก็ยังรู้จักเรา”

 

คิดยังไงกับการโดนกรรมการล่อซื้อ?

เจมิไนน์ : “จริง ๆ มีตอนนึงหลังจากที่ผมถ่ายเทปแรกไปแล้วผมเจอ”พี่นุ้ย” รายการที่ Workpoint นี่แหละครับ ระหว่างที่อยู่ในช่วงชุลมุน “พี่นุ้ย”ถามว่า “อยู่ในหน้ากากร้อนไหม?”  ละผมก็เผลอตอบไปว่า “ร้อนมากเลยพี่” แล้ว” “พี่นุ้ย”ก็ อ้ะ!”

โฟร์ท : “ใช่ เรื่องแบบนี้โดนเหมือนกัน คือ “วิลเลียม” ผมก็นั่งอยู่ ผมไปตึก ผมก็นั่งโซฟาตรงข้าม “วิลเลียม” เขาก็ถามว่า “อยู่ในหน้ากากเป็นไงปะวะ ร้อนไหม?” ละผมก็บอกว่า “เออ โคตรร้อน” แล้วก็นึกได้ว่าใช่รึเปล่าวะ เพราะว่ายังไม่ได้เปิดหน้ากากด้วยตอนนั้น”

 

ตอนเขาห้ามบอกว่าเป็น “เจมิไนน์-โฟร์ท”รายการเขาบอกอะไรบ้างว่าต้องเก็บเป็นความลับไหม?

โฟร์ท : “เขาให้ใส่ไอ้โม่ง ผ้าคลุม เวลาขับรถเข้าไปแล้วก็แจ้งทะเบียนไป ยามก็จะโบกทำเป็นเหมือนความลับ”

 

พอเบื้องหลังออกมารู้สึกว่ากรรมการล่อซื้อให้ร้องเพลง ให้เต้น นู่นนี่”

เจมิไนน์ : “ซึ่งเราก็ทำหมด”

 

ทำไมเราถึงทำไมคิดหรอว่ามันเป็นการล่อซื้อ?

เจมิไนน์ : “กลัวคนไม่รู้จักเราไง กลัวเปิดออกแล้วแบบ อ้ะ ใคร?”

 

ช่วงเวลาที่ยังไม่เปิดหน้ากากมีคนมาถามเยอะไหม หรือมากดดัน หรือไม่อยากคุยกับใครเลย?

โฟร์ท : “ไม่ได้มีคนมาถามว่าใช่ไหม? แต่ว่า อ้าว มาออก The Mask Singerหรอ? เขารู้อยู่แล้วว่าเป็นเรา”

เจมิไนน์ : “คือเขารู้อยู่แล้วว่าเป็นเรา”

 

แล้วเรารู้ไหม ว่าเขารู้ได้ยังไงว่าเป็นเรา?

โฟร์ท : “เราก็รู้ว่าทำไมเขารู้ เพราะว่ามันปิดไม่มิด ก็โป๊ะอยู่พอสมควร”

 

พอเปิดออกมาแล้วว่าเป็น “เจมิไนน์-โฟร์ท” รู้สึกยังไงบ้าง?

โฟร์ท : “รู้สึกเย็นสบาย โล่ง เป็นไทยแล้ว”

 

ก็ลุ้นอยากให้เปิดหน้ากากเร็ว ๆ หรอ?

โฟร์ท : “ใช่ ก็ลุ้นอยากให้เปิดอยากให้เห็น ด้วยที่เราเจอหน้ากาก “โทสะโมหะ” ซึ่งผมว่า อันนี้ผมเดานะว่าคือพี่ “เจฟ ซาเตอร์” กับ พี่ “โบกี้ไลออน” ซึ่งร้องเพลงเพราะมาก เข้าใจเลยว่าทำไมเราแพ้ คือร้องเพราะมาก ผมนั่งฟังก็มองในหน้ากากกับ ”เจมิไนน์” ว่า ครั้งนี้แหละ เราจะได้เย็นแล้ว”

 

พูดตรงนี้ไว้เลยว่าเป็น “เจฟ ซาเตอร์” กับ “โบกี้ไลออน”?

โฟร์ท : “ครับ พี่ “เจฟ ซาเตอร์” กับ พี่ “โบกี้ไลออน” ฟันธงครับ”

 

ถ้าไม่ถูกล่ะ?

โฟร์ท : ”ถ้าไม่ถูกขอให้ผมเนี่ยหล่อขึ้น ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวมันถูกแล้วผมไม่หล่อ”

 

แล้ว ”เจมิไนน์” ล่ะเราเดาถูกไหม?

เจมิไนน์ : ตอนแรกผมไม่เชื่อ คิดว่าเป็นพี่ “โจอี้ ภูวศิษฐ์” หรือไม่ก็พี่ “จ๋าย” เพราะพี่เขาแปลงเสียงไง แล้วตอนนั้นเราก็อยู่ในหน้ากากฟังแล้วมันอู้อี้นิดนึง พอกลับมาฟัง ละเออว่ะ แต่โฟร์ทบอกจับได้เพราะส้นสูง”

โฟร์ท : “พี่ ”เจฟ” เขาชอบยืนเปิดอก เขาเล่นเวทมาไง”

 

ซึ่ง ”เจมิไนน์” ก็คือจับจริต “เจฟ” ไม่ได้?

เจมิไนน์ : “คือ ไม่รู้สิ ตอนนั้นผมโฟกัสแค่ตัวเองอ่ะ ผมรู้สึกร้อน ที่ทุกคนเห็นผมดุ๊กดิ๊กอะไรพวกนี้ ผมพยายามเบี่ยงเบนความสนใจกับความร้อนตัวเองอยู่ ให้ลมมันเข้าไปนิดนึง”

 

แต่ทุกคนก็จำได้ว่าคือเรานะ เราขยับเยอะ ๆ อ่ะ?

โฟร์ท : “อ๋อ คือไม่ได้เต้นแต่เบี่ยงเบนความร้อน”

เจมิไนน์ : “ขอโทษแล้วกันที่เป็นตัวเองเยอะไปหน่อย”

 

แล้วพอถอดหน้ากากสิ่งที่โฟร์ทพูดคือ?

เจมิไนน์ : “นอกจากพ่อผม ผมก็ไม่รู้ว่าจะรักใครได้มากเท่าคุณแล้ว”

 

ทำไม ”โฟร์ท”ถึงเลือกประโยคนี้ กับผู้ชายคนนี้?

โฟร์ท : “อะไรนะครับ ไม่รู้ ๆ คำถามนี้ไม่ตอบครับ เวลาพูดเรื่องพวกนี้มันเขินไง”

 

นิยามคำนี้เป็นยังไง?ความหมายที่อยากจะสื่อให้คนข้าง ๆ

โฟร์ท : “ก็จะสื่อว่ารัก ”เจมิไนน์” นี่แหละครับ ด้วยความผูกพัน เรื่องราวที่ผ่านมาตั้ง 3 4 ปี จะเข้าปีที่ 5 แล้ว ทำงานด้วยกันทุกวันก็รู้สึกผูกพันธ์ มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อ ”เจมิไนน์”ครับเป็นเพื่อนที่เราอุ่นใจเวลาอยู่ใกล้ เวลาทำงานด้วย เป็นคนที่เวลาทำงานแล้วไม่กังวลเลยเกี่ยวกับการทำงานด้วยกัน ดีใจที่ได้เป็นพาร์ทเนอร์กับ ”เจมิไนน์”

 

”เจมิไนน์”เป็นไง? ที่ได้ฟังประโยคนี้

เจมิไนน์ : “รู้อยู่แล้วครับ เขาบอกหลายรอบแล้วไง ไม่ได้พูดรอบแรก”

 

แล้วเขาชอบพูดตอนไหน?

เจมิไนน์ : “ก็พูดตอนขอบคุณตามงาน”

โฟร์ท :คือไม่ค่อยชอบพูด อะไรแบบนี้แบบจริงจัง เค้าเรียกว่าไรถาม-ตอบ เขินไง เวลาพูดแบบนี้”

 

”เจมิไนน์” พูดอะไรกลับหน่อย เขาพูดไปแล้ว

เจมิไนน์ : “ผมก็รักเขาเหมือนกัน ผมก็รู้สึกเหมือนเขานั่นแหละ”

โฟร์ท : “คุณรักผมไหมครับ?”

เจมิไนน์ : “รัก ๆ”

โฟร์ท : “คนเรารักกันได้เป็นเรื่องปกติ”

เจมิไนน์ : “นั่นแหละ ก็อย่างที่ ”โฟร์ท” พูดไป ไม่รู้จะหาใครที่ผมทำงานด้วยแล้วแฮปปี้เหมือน ไร้ความกังวลได้ขนาดนี้มาก่อน ผมทำงานด้วยมาหลายคนแล้วแต่ว่า พอได้มาทำกับ ”โฟร์ท” ก็รู้ว่ามันไม่มีอะไรที่ต้องปรับกันแล้ว เข้ากันได้แบบที่เจอกันแล้วทำงานได้เลย”

 

รู้สึกยังไงกับการแสดงของเขา?

โฟร์ท : “หนัง ๆ”

เจมิไนน์ : “อ๋อ หนังที่เขาเล่น ก็เริ่มถ่ายแล้วหนิ ใช่ไหม?”

โฟร์ท : “ใช่ครับ ก็เริ่มถ่ายแล้ว”

เจมิไนน์ : “ก็รู้สึกอยากแสดงความยินดี เพราะเป็นหนึ่งความฝันของ ”โฟร์ท” ที่ตั้งแต่ผมเข้าวงการมาเลยผมได้ยินเขาพูดหลายครั้ง ตั้งแต่ แอคติ้งกับ workshop คือเขาอยากเล่นมาก ๆ พอครั้งนี้เขาได้เล่นจริง ๆ ก็รู้สึกดีใจด้วยจริง ๆ

โฟร์ท : “ติดตามกันได้นะครับทุกคน”