ก้าวไกล ชี้ ปชช.อยากฉีดวัคซีน แต่ยังไม่กล้าฉีด ย้ำ คนหาเช้ากินค่ำยังต้องการมาตรการเยียวยาอยู่
พรรคก้าวไกลจัดแถลงข่าวออนไลน์ผ่านระบบซูมประเด็นเศรษฐกิจปากท้องและมาตรการรับมือโควิด นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญา ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล กล่าวว่า จากการที่ได้ลงพื้นที่ไปพบประชาชนในเขตบางแค สิ่งที่ประชาชนต้องการ คือ วัคซีน แต่ยังไม่กล้าฉีด เนื่องจากมีกระแสข่าวเรื่องผลกระทบหลังจากการฉีดวัคซีน ส่วนเรื่องมาตรการการเยียวยานั้น ประชาชนหาเช้ากินค่ำยังต้องการอยู่ นอกจากนี้ประชาชนยังเกิดการตื่นตระหนกอยู่ และเกิดความสับสนในเรื่องการปฏิบัติตัวควรทำอย่างไรบ้าง
ด้านนายแพทย์ วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวตอบคำถามนายณัฐพงษ์ ว่า ประชาชนส่วนใหญ่อยากฉีดวัคซีน เพราะเชื่อว่าเป็นทางออกในวิกฤติครั้งนี้ แต่ ส่วนใหญ่ก็ยังไม่กล้าฉีด หากภาครัฐไม่สามารถทำให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ ก็จะยังคงเป็นวิกฤติอยู่ ซึ่งต้องสื่อสารว่าการฉัดดีกว่าไม่ฉีด และวัคซีนโควิดนี้ กันตายไม่ได้กันติด ส่วนการปฏิบัติตัวในกลุ่มเสี่ยงและไม่เสี่ยงนั้น ถ้าหากใกล้ชิดคนติดเชื้อ ก็ต้องตรวจหาเชื้อ และกักตัวและต้องตรวจซ้ำ และส่วนผู้เข้าข่ายว่าอาจจะติดเชื้อ ก็สามารถแยกตัว และดูอาการของตนเองได้
สำหรับข้อแนะนำเพิ่มเติม ทางกรมการแพทย์ได้มีการแจ้งแนวทางในการการกักตัวภายในบ้านแล้ว แต่ยังไม่มีประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ จึงเรียกร้องให้ภาครัฐให้ความรู้แก้ประชาชนในเรื่องนี้ได้แล้วเพราะเมื่อวันใดที่ประกาศใช้ออกมา ประชาชนจะได้ไม่เกิดความสับสนและสามารถปฏิบัติตามได้ทันที ส่วนการฉีดวัคซีนนั้น ต้องเพิ่มอัตรากำลังในการฉีด หากยังไม่เพิ่มอัตราการฉีด 3-4 แสนรายต่อวัน จะไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ทันตามระยะเวลาที่จะเปิดประเทศ นอกจากนี้ในเรื่องของอุปกรณ์ที่ใช้และสิ้นเปลือง ขออย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับหน้ากากอนามัยที่ไม่เพียงพอ อยากให้เกิดการมียาแต่ไม่มีเข็มจึงอยากให้ระวัง และเตรียมความพร้อม
ก้าวไกล มอง วัคซีนเป็นความหวังสุดท้ายฟื้นเศรษฐกิจ แนะเปิดลงทะเบียนให้ปชช.รับวัคซีน เดือน พ.ค.นี้ พร้อมประกาศแผนกระจายวัคซีน
นางสาว ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล นโยบายเศรษฐกิจ กล่าวในการแถลงข่าวออนไลน์ผ่านระบบซูมประเด็นเศรษฐกิจปากท้องและมาตรการรับมือโควิด ว่า การที่จะทำให้เศรษฐกิจกลับมาได้ และจะสร้างความเชื่อมั่นได้ ก็คือ วัคซีน
ส่วนมาตรการเยียวยาที่ยังไม่ออกมานั้น ตนคิดว่ารัฐบาลคงไม่นิ่งนอนใจว่าเมื่อไม่ประกาศล็อกดาวน์คงจะไม่ต้องเยียวยา จึงเชื่อว่าอีกไม่นานคงจะมีมาตรการเยียวยาออกมาอีก หากเงินไม่พอก็สามารถกู้เงินเพิ่มได้อีก แต่จะเป็นแบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน เพราะหากมีการระบาดระลอก4หรือ5อีก ก็คงทำตามรูปแบบเดิมไม่ได้แล้วดังนั้น วัคซีน จึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ตนคิดว่าในเดือนพฤษภาคมนี้คงต้องเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนทั่วไปได้แล้ว และต้องประกาศแผนการกระจายวัคซีนได้แล้ว เพื่อเตรียมรองรับการเปิดประเทศ
นอกจากนี้ การฉีดวัคซีนให้ได้วันละหลายแสนคนจำเป็นจะต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เช่น วันที่จะฉีดวัคซีน นายจ้างควรอนุญาตให้ไปฉีดได้โดยที่ไม่นับว่าวันนั้นเป็นวันลา เพื่อให้เกิดการฉีดวัคซีนได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม วัคซีนคงเป็นความหวังสุดท้าย ไม่อยากให้ต้องเสียโอกาสไปอย่างที่ผ่านมา ที่ผ่านไป1ปีแล้ว ก็พบว่าสูญเสียโอกาสที่จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจ จึงไม่อยากให้เรื่องวัคซีนเป็นเรื่องที่ทำให้ไทยเสียโอกาสอีก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
