บิ๊กเต่า เผยความคืบหน้า คดีขบวนการทุจริตยา

บิ๊กเต่า เผยความคืบหน้า คดีขบวนการทุจริตยา ย้ำ จะเร่งสอบปากคำ หาผู้ต้องหาเพิ่ม คนที่ได้ประกันตัวเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทำได้
วันนี้ (27 มี.ค 68) เวลา 11.00 น. ที่ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รองผบช.ก. เผยถึงความคืบหน้ากรณีตำรวจสอบสวนกลางเปิดปฏิบัติการ สยบนาคี บุกจับแพทย์ พยาบาลทหาร พร้อมพวก ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก และการที่ผู้ต้องหาทั้ง 7 รายได้ประกันตัว
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เปิดเผยว่า ทางแพทย์ไม่ขอให้การโดยจะทำคำให้การมาให้ ส่วนพันเอกหญิงขอให้การในชั้นศาล ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่มรับซื้อยาจากแพทย์ให้การภาคเสธว่ารับซื้อจริงแต่คิดว่าเป็นยาถูกต้อง และตน มีข้อมูลที่ทำกันอยู่ คาดว่าจะมีอีกขบวนการ โดยให้กรมบัญชีกลางดูการเบิกจ่ายที่ผิดปกติ ซึ่งคาดว่าจะมีเฟซ 2 ทราบจากป.ป.ท. พบว่ามีการทำธุรกรรมผิดปกติหลายที่
ส่วนนายสมปราชและนางสาวสุรีย์พบเป็นยี่ปั๊วเถื่อน ไม่มีการจดทะเบียน ไม่มีใบอนุญาต จากข้อมูลทราบว่ามีการรับซื้อยามาจากตลาดมืด โดยพบข้อมูลพยานหลักฐานจำนวนมาก ทั้งจากแชทสนทนาผ่านไลน์ และโทรศัพท์ ยอมรับว่าตลาดมืดเรื่องยา มีเยอะ บางคนต้องการยาชนิดนี้แต่หาไม่ได้ในร้านขายยาแต่ไปหาได้ในตลาดมืด แม้ราคาแพงหรืออาจถูกกว่า
ซึ่งช่องทางที่เป็นตลาดมืดหรือร้านค้าจะสมประโยชน์กัน เมื่อมียาก็ส่งไปยังร้านต่างๆ เพื่อจำหน่าย จากข้อมูลที่ได้สอบปากคำพยานยืนยันว่าร้านค้าที่ตรวจค้นทั้งหมดมีพยานหลักฐานทั้งแชทไลน์ เส้นทางการเงิน การบันทึกข้อมูลการซื้อขายกันไว้ ทางพนักงานสอบสวนจะต้องมาพิจารณาพยานหลักฐานว่าจะสามารถเอาผิดหรือมีการกระทำผิดร่วมหรือไม่ ฐานสมคบ และประเด็นของการฟอกเงิน ซึ่งตำรวจจะต้องทำงานอย่างต่อเนื่องเพราะต้องการที่จะกำจัดตลาดมืดการขายยาที่กล้าที่จะนำยาที่ไม่สามารถจำหน่ายได้มาขาย
เมื่อวานนี้แม้ว่าทางป.ป.ท. บอกว่าข้อมูลอาจจะจบแล้ว แต่แนวทางการสอบสวน เราได้ทำงานร่วมกันว่าจะต้องดำเนินคดีกับแถว 2 แถว 3 หรือไม่ซึ่งมีจำนวนมาก เป็นเรื่องของทางพนักงานสอบสวนจะต้องดำเนินการ การทำงานเน้นตัวการสำคัญที่ได้รับเงินได้รับผลประโยชน์ไปจริงๆ ส่วนเหยื่อที่ถูกหลอกไปว่าทำไปแล้วไม่ผิด เพราะมีการจ่ายยาถูกต้อง และมีใบกำกับภาษี จะต้องดูเจตนาว่าอย่างไร
เมื่อถามว่าการให้ประกันตัวผู้ต้องหาไปกังวลหรือไม่ว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตำรวจมีพยานหลักฐานเพียงพอ และทำงานมาอย่างละเอียดโดยมีการบูรณาการความร่วมมือร่วมกับหลายหน่วยงาน หากพบว่ามีการไปข่มขู่หรือจะไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐานทางตำรวจก็จะถอนประกัน ส่วนจะมีตัวการใหญ่กว่านี้หรือไม่ทางตำรวจไม่ได้ตัดประเด็นนี้ทิ้ง
ตำรวจทำงานตามพยานหลักฐาน เท่าที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินขณะนี้ยังไม่พบว่ามีตัวการใหญ่กว่านี้ และการกระทำผิดในกรณีนี้เป็นการทำผิดปัจเจกบุคคล ไม่อยากให้เหมารวมทั้งองค์กร เพราะยังมีแพทย์อีกกว่าร้อยคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่จับกุมมา 8 ราย ได้ให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนแล้ว 7 ราย เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่สามารถทำได้ อีกหนึ่งรายอยู่ระหว่างหาหลักทรัพย์มาประกันตัว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews