“สุวัจน์” ประสิทธิภาพแก้ปัญหาศก.ชี้วัดอนาคตรัฐบาล

“สุวัจน์” ชี้ประสิทธิภาพแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล เป็นตัวชี้วัดว่าจะอยู่ครบเทอม 4 ปี หรือไม่
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา และอดีตรองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงการมองการเมืองหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในฐานะพรรคชาติพัฒนาที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลดูจากคะแนนไว้วางใจนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชิณวัตร ได้ 319 เสียง ถือเป็น Highest record เป็นสถิติสูงสุด และเก็บทุกคะแนนจากพรรคร่วมรัฐบาล
เรียกว่าอยู่กันครบและก็ยังมีเติมมาบ้างเล็กๆ น้อยๆ ถือว่าดูจากเสียงก็มีความมั่นใจในเสถียรภาพรัฐบาลว่า 100% ไม่มีปัญหา และตนดูจากกการอภิปรายก็ถือว่าทั้งสองฝ่ายก็ทำหน้าที่กันได้ดี ฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ได้ดี ฝ่ายรัฐบาลโดย น.ส.แพทองธาร ชิณวัตร นายกรัฐมนตรีก็ชี้แจงได้ดี พี่น้องประชาชนก็เป็นผู้ตัดสิน ส่วนเกมในสภาฯ ดูแล้วถ้าเป็นฟุตบอลก็ถือว่าสนุกก็ตัดสินตามเสียงข้างมาก ฉะนั้น
ตนถือว่ารัฐบาลสอบผ่าน ทั้งสองฝ่ายก็ได้ทำหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ฝ่ายค้านก็ได้ทำหน้าที่ตรวจสอบ รัฐบาลก็ทำหน้าที่ชี้แจง จากนี้ไปรัฐบาลก็คงจะใช้เวลาที่เหมือนกับกลับมาอยู่ในSafety Zone อีกครั้งหนึ่ง อภิปรายไม่ไว้วางใจจบแล้วปัญหาเศรษฐกิจที่รออยู่และข้อมูลต่างๆ ในการอภิปรายโดยเฉพาะประเด็นที่ที่สมาชิกในสภาฯเป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจตนก็เชื่อว่ารัฐบาลคงจะนำไปพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมมาตรการต่างๆที่มีอยู่แล้ว ซึ่งก็จะเห็นว่าอย่างเมื่อวานนี้พอจบการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จากการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีก็ได้เร่งรัดผลักดัน
เรื่องเศรษฐกิจก็คิดว่าจากนี้ไปรัฐบาลก็น่าที่จะใช้เสถียรภาพที่เข้มแข็งของรัฐบาลและอยู่ในโซนปลอดภัยได้อีก 1 ปีจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็สามารถที่จะระดมทีม ระดมใช้เสถียรภาพของรัฐบาลให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการสร้างกลไกในการผลักดันมาตรการต่างๆให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นโดยเร็ว เพราะว่าเป็นปัญหาที่พี่น้องประชาชนรอคอยและทุกคนก็ฝากความหวังไว้กับ รัฐบาลชุดนี้ ฉะนั้นก็ต้องใช้เสถียรภาพนี้ให้เกิดประโยชน์จริงๆ ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในลุล่วง
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีที่ชี้แจง และเสียงพรรคร่วมรัฐบาลคะแนนเต็มร้อยให้เท่าไหร่ นายสุวัจน์ฯ ตอบทันทีว่า เต็มร้อย ตนก็ให้เต็มร้อยแน่นอนเพราะว่าดูจากเสียงดูจากเสถียรภาพก็เต็มร้อยวันนี้ ฉะนั้นก็อยากให้เหมือนกับว่า อย่าให้เสียของ เสถียรภาพเต็มร้อยแล้วอะไรที่จะต้องตัดสินใจให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนด้วยความโปร่งใสก็ต้องทำ
ให้เกิดประโยชน์ ให้แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนเป็นสิ่งนี้พี่น้องประชาชนรอคอย ส่วนการเมืองก่อนหน้าอภิปรายดูเหมือนมีความขม แต่หลังจากนี้ไปรัฐบาลพรรคร่วมรัฐบาลมีแต่เรื่องหวานนั้น เรื่องนี้ตนคิดว่ามันก็คือการเมือง มันก็แล้วแต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้ง บางทีมันก็ลิ้นกับฟัน แต่ว่าพื้นฐานมันก็คือตัวนี้ 319 เสียง
ส่วนเรื่องปรับ ครม.หลังจบการอภิปรายฯนั้น ตนคิดว่า มันเป็นเรื่องที่คาดการณ์ยาก แต่ว่าตอนนี้มันก็ครึ่งเทอมแล้ว ฉะนั้นมันอยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้ารัฐบาลว่า ผลจากการอภิปรายฯแล้วคิดอะไร อยากจะปรับปรุงอะไรบ้าง ตนคงตอบแทนหัวหน้ารัฐบาลไม่ได้ แต่ว่าการเมืองมันก็มาครึ่งเทอมแล้ว จากนี้ไปครึ่งเทอมหลังมันก็เป็นอะไรที่รัฐบาลก็ต้องมีทั้งเสถียรภาพและมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่มีเสถียรภาพอย่างเดียว ต้องเอาเสถียรภาพไปสร้างประสิทธิภาพ ประสิทธิภาพก็คือการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ตนก็เอาใจช่วย น.ส.แพทองธาร กับเอาใจช่วยคณะรัฐมนตรี ตอนนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีท่านก็โล่งแล้วได้ชี้แจงกับสภาฯ ไปแล้ว 1 ปีก็ทำงานกันให้เต็มที่
ต่อข้อถามมองว่ารัฐบาลปัจจุบันจะอยู่ครบเทอม 4 ปี หรือไม่นายสุวัจน์ฯ ตอบว่า ก็ครึ่งหลังนั่นคือ การเมืองตามฟอร์มดูจากเสถียรภาพไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะตัดสินใจเรื่องจะปรับ ครม. หรือเรื่องจะอยู่ครบเทอมหรือไม่ครบเทอมมันเป็นเรื่องที่มันเกี่ยวข้องกันไปหมด แต่ว่าโดยพื้นพื้นเสถียรภาพไม่มีปัญหา ยกเว้นว่ารัฐบาลอยากจะทำอะไรกับเรื่องนี้เท่านั้นเอง
ส่วนการอภิปรายฯทีไรมีบ่อยครั้งเกิดงูเห่า ครั้งนี้ก็มีงูเห่า มองอย่างไรนั้น ตนคิดว่า อย่างนี้แหละการเมือง แต่จริงๆเสถียรภาพรัฐบาลก็เพียงพออยู่แล้ว ฉะนั้นส่วนที่เกินมาตนก็ไม่ทราบว่ามาจากพรรคไหนบ้าง รัฐบาลเองก็อยู่ได้อยู่แล้วด้วยเสถียรภาพ ด้วยโครงสร้างของรัฐบาลปัจจุบัน นายสุวัจน์ฯกล่าว.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews