วันโกหก-SMSดินไหว “รัฐบาลอิ๊งค์” Vs ตึกเต้าหู้(ยี้)สตง.

 

วันนี้(1เม.ย.)เป็น “วันแห่งการโกหก”แม้จะเป็นสากล แต่ เพื่อเพลย์เซฟไว้ก่อน ตำรวจสอบสวนกลาง(CIB) ต้องรีบปรามเตือนแต่เช้า ประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ดินไหวมีประชาชนได้รับผลกระทบทางจิตใจ
รู้สึกหวาดกลัวตื่นตระหนกเป็นจำนวนมากวันนี้เป็น “วันแห่งการโกหก”หรือApril fool’s day

 

 

 

จึงขอความร่วมมือประชาชน “งดสร้างข่าวปลอม”เกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว ป้องกันความเข้าใจผิด จนทำให้ตื่นตระหนก และหวาดกลัว โดยขอย้ำเตือน ท่ามกลางวิกฤตินี้ควรส่งข้อมูลที่ภูกต้องเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เราผ่านพ้นเหตุการณ์ไปด้วยกัน เรียกว่า สถานการณ์ประเทศไทย โดยเฉพาะใจกลางเมืองหลวงศูนย์รวมอำนาจรัฐบาลที่กรุงเทพฯ
ทุกฝ่ายตั้งแต่รัฐบาลภายใต้การนำของ “นายกอิ๊งค์”ทราบดีอย่างที่ CIB เตือน ว่าประชาชนที่ปัจจุบันแทบจะใช้ชีวิตทั้งการทำงานการอยู่อาศัยบนอาคารสูง ยังอยู่ในอาการ “แพนิก”จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว วันที่ 28มี.ค.แม้จะผ่านมาแล้ว4วัน เพราะภาพความเสียหายยังปรากฏตรงหน้าขณะที่เพื่อนบ้านเมียนมา ที่เป็น”สารตั้งต้น”แผ่นดินไหวครั้งใหญ่8.2 ที่เอฟเฟ็กต์แรงมาถึงกรุงเทพฯประเทศไทยก็ยังมีอาฟเตอร์ช็อคตลอดเวลาแรงบ้างเบาบ้าง

 

 

ยิ่งมาเจอเหตุการณ์เมื่อวาน(31มี.ค.)ที่เปิดทำงานมาโดยกรุงเทพฯปริมณฑล ก็เกิดเหตุการณ์ “หนีตาย”พร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายในเวลาเดียวกัน ราว10:00-11:00น.อีกรอบ ของผู้คนทั้งข้าราชการ และ พนักงานออฟฟิศเอกชนหลายสิบอาคาร ที่แม้หลังเหตุการณ์ผ่านไป ราว1ชม.“มท.1-อนุทิน”สรุปจากการยืนยันของหน่วยงานต่างๆว่าไม่ได้มีแผ่นดินไหวแต่เป็น “อุปทานหมู่” เช่นเดียวกับ “นายกอิ๊งค์”และ “ผู้ว่าชัชชาติ”
คอนเฟิร์มตามการตรวจสอบของ “ศูนย์เฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุ”ว่าไม่ใช่อาการ “อาฟเตอร์ช็อค” ที่ได้รับผลกระทบจาก “ประเทศเมียนมา”ที่เมื่อวานเกิดอาฟเตอร์ชอคถี่ยิบตั้งแต่ช่วงเช้ากว่า 10 ครั้ง

 

 

หากแต่เรื่องเมื่อวาน(31มี.ค.)ก็ยัง “คาใจ”ผู้คนว่าตกลงคืออะไรระหว่างผลกระทบจากอาคารที่ชำรุดหรือ มีดินไหวจริงทุกคนจะ“อุปทานหมู่”พร้อมกันหรือมีอะไรในกอไผ่ แม้ทุกคนจะไม่ได้คาดหวัง “คำเตือน”
จาก “SMSเตือนภัย”ของรัฐบาล ที่เพิ่งเตือนช้าไปในครั้งเกิดดินไหววันที่ 28มี.ค.

 

 

จน “นายกฯอิ๊งค์”ต้องไล่จี้ถามปภ.และ กสทช.และเพิ่งรู้ ว่าระบบSMS ที่เตือนภัยพิบัติผ่านมือถือแบบเฉพาะเจาะจง ส่งทีให้หลายสิบล้านคน อย่าง ระบบ Cell Broadcasting ที่ กสทช.ดำเนินการมาตั้งแต่ “รัฐบาลเศรษฐา”ยังไม่เสร็จอยู่ในขั้นตอนทดสอบระบบทำให้วันนี้ครม.ต้องมาเร่งคาดระบบนี้จะเสร็จในเดือนก.ค.นี้ หากแต่ “หน้างาน”ตอนนี้ ประชาชนก็ยังคาดหวังรัฐบาล จะมีการปรับปรุงเตรียมการ“ระบบการสื่อสารในยามวิกฤติ”ของ “รัฐบาล” ไปยังประชาชนเมื่อเกิดสถานการณ์ความสับสน ที่ยุค “ลุงตู่”ครั้งเกิด วิกฤติโรคระบาด“โควิด”ก็มีระบบตั้งศูนย์ และรวมศูนย์ “ข่าวสาร”ไว้ที่เดียวโดยให้ “หมอทวีสิน”เป็นผู้แถลงจนคลี่คลายความสับสนได้

 

 

 

ตัดกลับมาที่สถานการณ์”ดินไหว”อีกด้านหนึ่งที่ “คู่ขนาน”กันไปกับการซ่อมห้องตัวเองในคอนโดต่างๆ และแจ้งเบาะแสโครงสร้างคอนโดฯให้กับ กทม. ที่มี “วิศวกรอาสา”มาตรวจสอบของ “ประชาชน” ด้านหนึ่ง
ทุกฝ่ายยังคงลุ้นการระดมทีมผู้เชี่ยวชาญจากทั้งในและต่างประเทศโดยมี “ทีมกทม.”ของ “ผู้ว่าชัชชาติ” เป็น “แม่งาน”ในการช่วยเหลือค้นหา “เหยื่อ”แผ่นดินไหว ที่ยังอยู่ในซาก “ตึกเต้าหู้”30ชั้น ของ “สตง.”
ที่ตกเป็นเป้า “ตำบลกระสุนตก”โดนทัวร์ลงเช่นเดียวกับ “รัฐบาลอิ๊งค์”และบริษัทที่รับเหมาจีนอย่าง บริษัทที่เกี่ยวข้องกับ “ตึกเต้าหู้”30ชั้นนี้อย่าง กลุ่ม กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จํากัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จํากัด)

 

 

 

จน“ผู้ว่าสตง.” “มณเฑียร เจริญผล”คนปัจจุบัน ที่แม้จะไม่ได้เป็นผู้ “ลงนาม”เซ็นต์สัญญาสร้างตึกนี้ ต้องออกมาส่ง“สาร”ถึงข้าราชการสตง.”ทำนอง ให้กำลังใจ “คนสตง.” ให้สูดลมหายใจลึกๆกุมมือกันให้แน่นและก้าวเดินไปด้วยกัน”โดยยอมรับว่าเหตุการณ์นี้ นอกจากจะทำให้ “บ้านหลังใหม่”ที่รอมานาวนานต้อง “พังทลายต่อหน้า”แล้วยังส่งผลถึงความเชื่อถือศักดิ์ศรี และเกียรติภูมิร่วมกันที่สั่งสมกันมา โดยเฉพาะเสียงวิจารณ์ที่รู้สึกกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมที่เราจะอดทนอดกลั้นกลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าตอบโต้ควาเห็นเชิงลบ ด้วยความเชื่อมั่นในความซื่อสัตย์สุจริตที่ยึดไว้เป็นDNAของคนสตง.เมื่อความจริงปรากฏเราพร้อมเรียกความน่าเชื่อถือศักด์ศรีกลับมาและเราจะไม่ทิ้งความฝันการสร้างบ้านหลังใหม่ กระนั้น “สารดังกล่าว”ที่ออกมาในยามสถานการณ์ยังกรุ่นๆ ก็ยังไม่วายถูก “ทัวร์ลง”เช่นกัน.

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th