เชียงใหม่เร่งตรวจสอบน้ำกก พบสารตะกั่ว สารหนู ปริมาณสูง

สสจ.เชียงใหม่ ห่วงใยประชาชนจากสถานการณ์แม่น้ำกกมีสีขุ่นผิดปกติ พร้อมแนะนำหลีกเลี่ยงการนำน้ำในแม่น้ำกกมาบริโภคโดยตรง
นายแพทย์วรัญญู จำนงประสาทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึง กรณีแม่น้ำกกมีสีขุ่นผิดปกติบริเวณพื้นที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่
ซึ่งทางสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) รายงานผลการดำเนินการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำในห้องปฏิบัติการ พบว่า ตะกั่ว และสารหนู
มีค่าเกินมาตราฐาน ซึ่งตะกั่ว ที่พบในแม่น้ำกก อาจส่งผลต่อสุขภาพทำให้เกิดอาการ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดกล้ามเนื้อ คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง
อย่างรุนแรง อาจชักหรือหมดสติ
สำหรับสารหนู ผู้ที่ได้รับพิษ จะเกิดความผิดปกติของผิวหนังโดยทำให้เกิดผื่นคันบริเวณที่สัมผัส คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียได้ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำ
หรือใช้น้ำไปปรุงอาหาร หรือรดน้ำพืชผัก โดยเฉพาะเด็กและหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจาก เด็กมีน้ำหนักตัวน้อย จึงได้รับสารหนูในปริมาณที่สูงกว่าผู้ใหญ่
และหญิงตั้งครรภ์มีโอกาสพบสารหนูในน้ำนมแม่ และสามารถผ่านทางรกไปยังลูกได้
นอกจากนั้นผลการตรวจคุณภาพน้ำยังพบว่ามีปริมาณโคลิฟอร์ม แบคทีเรียสูง ซึ่งหากนำน้ำดังกล่าวมาบริโภคจะทำให้เกิดอาการ ไข้ ปวดท้อง และท้องเสีย
โดยการนำน้ำมาใช้ควรผ่านกระบวนการทำความร้อน เช่น การต้มให้น้ำเดือด หรือผ่านระบบเครื่องกรองน้ำ ที่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพก็สามารถ
ช่วยกำจัดหรือควบคุมปริมาณของแบคทีเรียให้พอเหมาะ นายแพทย์วรัญญู กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการป้องกัน และลดผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนจากสถานการณ์
ดังกล่าว สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แนะนำให้ประชาชน หลีกเลี่ยงการนำน้ำในแม่น้ำกกมาบริโภคโดยตรง หากมีประวัติสัมผัสน้ำโดยตรง และมีอาการ ผื่นคัน ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน หรือท้องเสีย ควรพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำ พร้อมทั้งขอให้ติดตามข้อมูลสถานการณ์จากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ จะดำเนินการติดตามเฝ้าระวังผลกระทบด้านสุขภาพอย่างใกล้ชิด โดยผู้ที่มีอาการหรือสงสัยว่าเจ็บป่วยจากการ
สัมผัสน้ำแม่กกดังกล่าว สามารถเข้ารับการรักษาได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านตามสิทธิการรักษา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews