รวบสาวใหญ่เปิดแทงพนันไก่ชนออนไลน์ เงินหมุนนับแสนต่อวัน

ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ นำแถลง รวบสาวใหญ่เปิดแทงพนันไก่ชนออนไลน์ เงินหมุนนับแสนต่อวัน พร้อมล่าขบวนการบุหรี่ไฟฟ้า และอาวุธปืน
พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นำแถลงกรณีตำรวจไซเบอร์รวบสาวใหญ่เปิดแทงพนันไก่ชนออนไลน์ เงินหมุนนับแสนต่อวัน พร้อมแถลงผลปฏิบัติการล่าขบวนการบุหรี่ไฟฟ้า สินเชื่อนอกระบบ อาวุธปืน และหลอกลวงออนไลน์
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบผู้ใช้งาน บัญชี TIKTOK ชื่อบัญชี “โฟน น้องเฌอแตม” ได้โพสต์วิดีโอและแปะลิงค์เพื่อเข้าสู่กลุ่มไลน์ ชื่อ “ปี่เซียะ168” และมีการเปิดให้แทงพนันไก่ชนผ่านแอปพลิเคชันไลน์ รวมทั้งเปิดกลุ่มให้เล่นการพนันประเภทอื่นๆ เช่น ไฮโล ป๊อกเด้ง เป็นต้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจกก.3 บก.สอท.5 จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นศาลแขวงดอนเมือง เพื่อเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ในซอยพหลโยธิน 54/1 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ โดยสามารถจับกุมนางสาวดวงดาว อายุ 41 ปี พร้อมของกลาง อาทิ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และสมุดจดรายการสรุปยอดพนัน 1 เล่ม โดยน.ส.ดวงดาว ให้การรับว่าตนรับแทงพนันไก่ชนออนไลน์ โดยมีเงินหมุนเวียนนับแสนบาทต่อวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “จัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์” และนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมเร่งขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการ
ขณะที่กก.วิเคราะห์ข่าว บก.สอท.3 ทำการรวบนายชิราวุฒิ อายุ 31 ปี หลังได้รับร้องเรียนจากประชาชนว่าชื่อบัญชีไลน์ “HappyRelx” ลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้น อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงล่อซื้อและนัดรับสินค้า บริเวณร้านกาแฟแห่งหนึ่งภายในปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด เจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเข้าจับกุมนายชิราวุฒิที่นำสินค้ามามอบให้
เบื้องต้น นายชิราวุฒิ ยอมรับว่าบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าวเป็นของตน จากการตรวจสอบข้อมูลภายในโทรศัพท์บัญชีไลน์ดังกล่าว พบประวัติแชทซื้อขายบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ภายหลังผู้ต้องหายอมเผยว่า ตนเองยังมีบุหรี่ไฟฟ้าซุกซ่อนไว้ในห้องเช่า โดยอ้างว่ามีหญิงสาวรายหนึ่ง อายุประมาณ 20 ปี ว่าจ้างให้ตนเป็นผู้ดูแลบัญชีไลน์ “Happy Relx”
และขายบุหรี่ไฟฟ้าให้แก่ผู้สั่งซื้อ โดยได้ค่าจ้างประมาณ 400 บาทต่อวัน เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้นพบบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 120 ชิ้น มูลค่ารวมประมาณ 20,000 บาท จึงแจ้งข้อหา “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรและขายสินค้าที่คณะกรรมการกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคห้ามขาย(บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า) ตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 ลง 28 ม.ค.2558” และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี และขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการ
อีกทั้งกก.4 บก.สอท.5 รวบหนุ่มสตูล ครอบครองระเบิดสังหารและลูกซองสั้นหักลำ หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด Cyber Guard ได้สืบสวนพบว่า นายฮัสซัน อายุ 28 ปี พักอยู่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมืองสตูล จ.สตูล อาจมีอาวุธปืนผิดกหมายซุกซ่อนอยู่ จึงขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดสตูล เข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว พบลูกระเบิดมือสังหาร ไม่ทราบชนิด จำนวน 1 ลูก, อาวุธปืนพกสั้นลูกซองแบบหักลำ ใช้ยิงกับกระสุนปืนลูกซอง ขนาดเบอร์ 12 ไม่มียี่ห้อผู้ผลิต ไม่มีหมายเลขประจำปืน ไม่มีเครื่องหมายทะเบียนปืนจำนวน 1 กระบอก, กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 1 นัด และ ปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 ผ่านการยิงแล้ว จำนวน 9 ปลอก วางซุกซ่อนรวมกันอยู่ใต้ราวแขวนผ้าภายในห้องนอนของ นายฮัสซัน
เบื้องต้นนายฮัสซัน เปิดเผยว่าของกลางทั้งหมดที่พบเป็นของตน โดยซื้อมาจากผู้ค้าที่รู้จักกันในเฟซบุ๊ก เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา “มีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ “มีอาวุธปืน
เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน” นำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมขยายผลไปยังขบวนการลักลอบขายอาวุธปืนผิดกฎหมายออนไลน์ต่อไป
นอกจากนี้ กก.3 บก.สอท.1 ได้รวบเครือข่ายอ้างการไฟฟ้าส่ง SMS หลอกติดตั้งแอปดูดเงิน โดย คนร้ายมีพฤติกรรมส่งข้อความ SMS แจ้งว่าผู้เสียหายได้รับเงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้าส่วนภูมิภาค PEAคืนตามขนาดของมิเตอร์ที่ใช้ จำนวน 1,500 บาท ต่อมาคนร้ายได้โทรหาผู้เสียหายและขอข้อมูลส่วนตัว อาทิ เลขบัตรประชาชน เลขบัญชีธนาคาร และมีการแอดไลน์จากนั้นหลอกให้ผู้เสียหายกดลิงก์เพื่อติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม ลวง ให้สแกนใบหน้า , ถ่ายภาพบัตรประชาชนและข้อมูลเลขที่บัญชีธนาคาร จนกระทั่งเงินในบัญชีของผู้เสียหายถูกโอนออกไปรวมกว่า 580,000 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจขอนออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการได้หลายราย และนำกำลังเข้าจับกุม น.ส.กมลรัตน์ อายุ 26 ปี ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยรวมว่าเป็นเจ้าพนักงานและร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” เบื้องต้นผู้ต้องหาปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าตนแค่รับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews