ค้าภายใน ปูพรมลุยตรวจสต๊อก “ยางพารา-ปาล์มน้ำมัน”

กรมการค้าภายใน ปูพรมลุยตรวจสต๊อก “ยางพารา-ปาล์มน้ำมัน” ป้องกันการกดราคารับซื้อ-ดัดแปลงเครื่องชั่ง, ลั่น หากพบกระทำความผิด ดำเนินการทางกฎหมายทันที
นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจตามกฎหมายเป็นชุดเฉพาะกิจ ปูพรมติดตามการรับซื้อสินค้าเกษตรโดยเฉพาะยางพาราและปาล์มน้ำมัน ในพื้นที่แหล่งปลูกทั่วประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้พ่อค้ารายใหญ่กดราคารับซื้อของเกษตรกร โดยปัจจุบันทั้งสินค้ายางพารา และปาล์มน้ำมัน เป็นพืชเศรษฐกิจหลัก และมีบทบาทสำคัญต่อรายได้ของเกษตรกรไทย จำนวนมาก การซื้อขายสินค้าเกษตรดังกล่าวเป็นการซื้อขายระหว่างเกษตรกรและพ่อค้ารายใหญ่ ซึ่งการซื้อขายที่ไม่เป็นธรรมจะทำให้เกษตรกรเสียเปรียบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่สินค้าเกษตรมีปริมาณมากและมีพ่อค้ารับซื้อน้อยราย
กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในจึงได้มีการกำกับดูแลการรับซื้อทั้งในด้านบริหารและด้านกฎหมาย โดยสินค้ายางพาราและปาล์น้ำมัน เป็นสินค้าควบคุมตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) และมีมาตรการอย่างเข้มงวดให้ผู้ประกอบการรับซื้อ ดำเนินการตามกฎหมาย อาทิ ต้องมีการแจ้งปริมาณการครอบครอง ปริมาณการรับซื้อ การจำหน่าย การใช้ ปริมาณคงเหลือ และสถานที่เก็บ
เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้ทุกเวลา เพื่อเป็นการควบคุมไม่ให้เกิดการลักลอบขนย้าย หรือการกักตุนสินค้า รวมถึงกฎหมายว่าด้วยชั่งตวงวัด ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ในการกำกับดูแลการใช้เครื่องชั่งโดยเฉพาะเครื่องชั่งสินค้าเกษตรให้มีความเที่ยงตรงและได้มาตรฐาน เพื่อไม่ให้เกษตรกรเสียเปรียบในเรื่องของน้ำหนักของสินค้าเกษตร
ปัจจุบันกรมฯมีการติดตามสถานการณ์สินค้ายางพาราและปาล์มน้ำมันอย่างใกล้ชิด ซึ่งปัจจุบันราคาสินค้ายางพารามีการปรับตัวลดลง ในขณะที่ราคาปาล์มน้ำมันในประเทศยังคงทรงตัว โดยราคาผลปาล์มเฉลี่ยอยู่ที่ 5.60 บาทต่อกิโลกรัม อยู่ในช่วงระหว่าง 5.30-5.90 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ในประเทศไทยอยู่ที่ 33.35 บาทต่อกิโลกรัม และราคาของประเทศมาเลเซียอยู่ที่ 32.66 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มในประเทศอยู่ที่ 242,000 ตัน ซึ่งถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติเล็กน้อย (234,000 ตัน)
โดยสาเหตุที่ราคารับซื้อปาล์มน้ำมันในช่วงนี้ยังไม่ปรับตัวสูงขึ้น มาจากผลกระทบของช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ ประกอบกับโรงงานสกัดบางส่วนใช้ช่วงเวลาดังกล่าว
ในการปิดปรับปรุงระบบการผลิต ส่งผลให้ปริมาณการรับซื้อผลปาล์มลดลงชั่วคราว
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบเกษตรกร กรมฯ จึงได้เร่งติดตามและควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยกำชับให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดและสำนักงานชั่งตวงวัดในพื้นที่
ที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ ออกไปติดตามตรวจสอบสถานการณ์การรับซื้อยางพาราและปาล์มน้ำมันในพื้นที่ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยจะมีการตรวจสอบสต๊อกน้ำมันปาล์ม
ในโรงงานสกัด ลานเท และจุดรับซื้อต่าง ๆ โดยจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จริง เพื่อตรวจสอบการรับซื้อ การติดป้ายแสดงราคาที่ชัดเจน และการใช้งานเครื่องชั่งให้เป็นไปอย่างถูกต้อง
โปร่งใส และเป็นธรรมต่อเกษตรกร
”ขอฝากถึงผู้ประกอบการรับซื้อสินค้าเกษตร ขอให้มีการรับซื้อที่เป็นธรรมแก่เกษตรกร ใช้เครื่องชั่งที่มีความเที่ยงตรง ซึ่งหากมีการพบการฝ่าฝืนกฎหมาย อาทิ การไม่ปิดป้ายแสดงราคา
การกักตุน หรือจำหน่ายสินค้าโดยไม่เป็นธรรม หรือมีการดัดแปลงเครื่องชั่ง กรมการค้าภายในจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดโดยทันที” นายวิทยากรกล่าว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews