Home
|
ข่าว

“อนุทิน”เล่าความหลังนั่งรมต.ครั้งแรก เหมือน “พจมาน สว่างวงศ์”

Featured Image

 

“อนุทิน” เปิดหลักสูตร นปส.รุ่น 83 เล่าประสบการณ์เข้าการเมืองนั่งรมต.ครั้งแรก เหมือน “พจมาน สว่างวงศ์” เป็นแมวตัวน้อยเข้าไปในถ้ำเสือ บอกเข้ามาบริหารที่ไหน ออกไปต้องมีพวก

 

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิด โครงการศึกษาอบรมหลักสูตรนักปกครองระดับสูง หรือ นปส. รุ่นที่ 83 ประจำปีงบประมาณ 2568 ระหว่างวันที่ 21 เมษายน – 4 กรกฎาคม 2568 มีจำนวน 100 คน ชาย 80 หญิง 20 คน โดยจะแบ่งการเรียนรู้ทักษะเป็นทีมที่ค่ายลูกเสือวชิราวุธจังหวัดชลบุรี รวมถึงการศึกษางานนอกสถานที่ต้องมีคะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ถึงจะผ่านการศึกษาอบรมโครงการนี้

 

จากนั้น นายอนุทิน กล่าวปาถกฐาพิเศษในหัวข้อ “ประสบการณ์นักบริหาร” ว่า ถือว่าเป็นรุ่นแรกที่ตนได้มีโอกาสมาเปิดการอบรม จุดนี้คือจุดที่ทุกคนจะต้องเปลี่ยนผ่าน จากการเป็นผู้ปฏิบัติมาเป็นผู้กำหนดเป็นผู้บริหาร ตนมาจากภาคการเมือง และพื้นเพมาจากภาคเอกชน ไม่ได้มาจากภาคราชการตั้งแต่ต้น หลักสูตรดังกล่าวยังเปิดโอกาสให้เพื่อนข้าราชการจากกระทรวงอื่นๆ ได้มารับการอบรมการผ่านการอบรมในหลักสูตรนี้ ถือมีศักดิ์และสิทธิ์เท่าเทียมกันกับหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานอื่น ตนมั่นใจว่าผู้ที่คัดเลือกคุณสมบัติของทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรม เป็นธรรม ยึดถือระเบียบ ยึดถือความเหมาะสม และได้คัดเลือกให้ทุกคนเข้ามาอบรมในรุ่นนี้

 

อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์ของตนอยู่ภาคเอกชนสุดขั้ว บางทีตอนมาทำงานอาจจะมีงงบ้าง จบวิศวะทำงานภาคเอกชนมาตลอด แต่เมื่อเข้าทำงานด้านการเมืองเป็นครั้งแรก เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไม่เคยมีความรู้ด้านแพทย์แม้แต่นิดเดียว ตนไม่ได้เรียนนปส.แบบนี้ อยู่ดีๆ มีผู้ใหญ่มาชวนให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตนก็อยากไปเพราะเราเรียนจบต่างประเทศ เราชอบอยู่แล้ว ทำงานกับบริษัทฝรั่งมาโดยตลอด คิดว่าการไปอยู่กระทรวงการต่างประเทศ คงสนุกน่าดู ตกร่องป่องชิ้นรับคำเชิญไป แต่การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน เข้าไปเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จัดอะไรไม่ลงตัวจะให้ตนเป็น แต่มีการต่อรองเอาตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขมาให้แทน ตนคิดแบบนักบริหารว่าเมื่อเค้าชวนมาแล้วตนก็ส่งงานภาคเอกชนให้กับคนที่มารับต่อไปแล้ว

 

อย่างไรก็เป็นรัฐมนตรี จำไว้นะ ยังไงก็เป็นซี 9 ยังไงก็เป็นนายอำเภอ ยังไงก็เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด เพราะเป็นผู้บริหารแล้วตนจึงสู้ไปเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ทางการเมืองเหมือนเป็นพจมาน สว่างวงศ์ในบ้านทรายทอง อยู่ในที่ที่ไม่มีใครรู้จักเราสักคน เราทำได้อย่างเดียวคือต้องไปบริหารเขาให้ได้ ตนไม่มีความรู้ด้านการสาธารณสุขแม้แต่น้อย ตนไม่มีโนฮาว หรือความรอบรู้ในงาน แต่มีโนฮู หรือ ความสัมพันธ์ ตนเป็นยิ่งกว่าแมวตัวน้อยๆ เดินเข้าไปในถ้ำเสือ มีความตั้งใจที่อยากให้การบริหารราชการแผ่นดินมีประสิทธิภาพสูงสุดสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ โดยเมื่ออยู่ในระบบราชการแล้วมีการก็หมุนกัน พรรคการเมืองไม่มีทางใหญ่กว่าพรรคราชการ คนที่ประคองระบบการบริหารราชการแผ่นดินของประเทศไทยไม่ใช่พวกตน เพราะตนมาแล้วก็ไป ทุกคนที่เข้ามาถ้ามาแบบตั้งใจที่จะมาทำให้สิ่งที่วางไว้และเป็นสิ่งที่ชอบสิ่งที่ชอบก็ต้องจากไปด้วยความชอกช้ำ ตนบอกตัวเองว่าจะไม่มีวันเป็นเช่นนั้นเมื่อตนออกไปต้องมีพวกมีเพื่อนมีสิ่งที่ทิ้งเอาไว้และคนพูดถึงตนตอนออกไป

 

นายอนุทิน ยังระบุว่า ตนอยู่ที่กระทรวงมหาดไทยมา 2 ปี ถ้าตนไม่รู้จักผู้ว่าฯ ไม่รู้จักอธิบดีมาก่อน การเข้ามาตรงนี้ก็คงเข้ามานั่งรำมวยไหว้ครูอีกครึ่งปีเป็นอย่างต่ำกว่าจะรู้เรื่อง แต่ก็ใช้ความนักบริหาร และเมื่อตอนเป็นรองนายกรัฐมนตรี ตนจำได้ว่าผู้ว่าราชการจังหวัดคนไหนมารับตอนตนลงพื้นที่ ผู้ว่าฯคนไหนอยู่ด้วยกันตลอดงาน หรือผู้ว่าคนไหนติดงานไม่เคยมารับเลย ยิ่งถ้าท่านทนได้ปัญหาต่างๆ ก็จะไม่มีปัญหา ตนอยู่กระทรวงสาธารณสุขช่วยตนตรงนี้ เพราะมีกรมสุขภาพจิต

“กระทรวงมหาดไทย? กระทรวงการคลัง กระทรวงพลังงาน ไม่มีเจ๊งมีแต่ห่วยหรือไม่ห่วย เพราะเราเป็นระบบราชการ เราก็อย่าทำให้มันห่วย บริหารให้มันเจ๋งเปลี่ยนไม้ตรีเป็นไม้จัตวา” นายอนุทิน กล่าว

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube