“เอกนัฏ” จวก ข้อโต้แย้ง “ซิน เคอ หยวน” ฟังไม่ขึ้น

“เอกนัฏ” จวก ข้อโต้แย้ง “ซิน เคอ หยวน” ฟังไม่ขึ้น ยืนยัน กระบวนการตรวจสอบเหล็กเป็นไปตามมาตรฐาน มอก. เล็งสอบย้อนหลังการออกใบอนุญาต ปี61 หลังอ้าง คำแนะนำจากอดีต สมอ. แนะ ทนาย ซักลูกความให้ดี
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าว ถึงการ แถลงข่าว ของบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด (SKY) เมื่อวานนี้ (21 เม.ย.) ว่า สิ่งที่บริษัทแถลงชี้แจงฟังไม่ขึ้นสักข้อ โดยเฉพาะการกล่าวหา ว่าสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย เครื่องมือไม่ได้มาตรฐาน ตรวจสอบได้แค่ค่าโบรอนตั้งแต่ 9-25 ppm เป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงมาก ซึ่งผู้อำนวยการสถาบันได้ยืนยันว่า อุปกรณ์ของสถาบันมีเครื่องมือที่สามารถ ตรวจสอบค่ามาตรฐานของเหล็กโดยเฉพาะค่าโบรอนได้อย่างแน่นอน ซึ่งสามารถวัดได้ตั้งแต่ 1-140 ppm ซึ่งค่าโบรอนที่เกินของ ซิน เคอหยวน สูงกว่า 8 ppm และกระบวนการเก็บตัวอย่างก็เป็นไปตามมาตรฐาน มอก. โดยเฉพาะการเข้าไปตรวจครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2 567 ก่อนจะมีการสั่งปิดโรงงานที่ผลิต
นายเอกนัฏ กล่าวว่าการที่บริษัทอ้างว่าไปฟังความคิดเห็นจากอดีตข้าราชการที่เกษียณแล้ว สำนักงาน มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ( สมอ.) นั้น ขอให้ไปตรวจสอบดูให้ดี เพราะขณะนี้ตนก็จะตรวจสอบ ย้อนหลังไปให้ถึงปี 2561 ว่าบริษัท ซิน เคอ หยวน ได้ มอก. มาอย่างถูกต้องหรือไม่ เพราะเงื่อนไขการออก มอก. หากผชิตด้วยเตา IF จะต้องมีกระบวนการปรับปรุงน้ำเหล็กให้บริสุทธิ์
ซึ่งจากการลงพื้นที่ของทีมสุดซอยยังพบว่ามีกระบวนการดังกล่าว แนะนำว่าใครที่ไปให้ข้อมูลให้คำปรึกษาก็ให้คำปรึกษาดีๆ รวมถึงทีมทนายควรจะไปซักลูกความให้ได้ข้อมูลทั้งหมดมาก่อน พร้อมระบุว่าสิ่งที่ตลกคือ ซิน เคอหยวน ได้ย้อนถึงวิธีการเก็บตัวอย่าง แต่จากการที่ตนไปตรวจสอบพบว่า มีจดหมายจาก ซิน เคอหยวน ถึง สมอ. ให้เข้าไปตรวจสอบตัวอย่างซ้ำหลายครั้ง แต่ผลก็ยังเหมือนเดิม ทั้งที่การรับรองมาตรฐานหากพบว่าค่าตกเพียงตัวเดียวก็ถือว่าตก แต่การตรวจสอบนี้พบว่าตกทั้งสามตัวอย่าง จึงเห็นว่าสิ่งที่แถลงเมื่อวานเป็นการพูดไม่หมด พูดเฉพาะพูดเฉพาะบางช่วงบางตอน และยังไม่ตอบคำถามอีกหลายเรื่อง โดยเฉพาะประเด็นฝุ่น ที่มีถึง 50,000 ตัน ทั้งที่แจ้งไว้แค่ 2,000 ตัน
ซึ่งสืบพบว่า ซิน เคอหยวน มี ความเชื่อมโยงกับบริษัทที่ลักลอบนำเข้าฝุ่น จากต่างประเทศ แค่เนื่องจากที่ผ่านมา ซิน เคอหยวน ไม่เคยให้การเป็นประโยชน์จึงต้องขอหมายศาล และให้ทีมสุดซอยร่วมกับดีเอสไอ เข้าไปเก็บหลักฐานสำคัญทั้งหมดมาแล้ว
ทั้งนี้ นายเอกนัฏ ยังกล่าวถึงกำลังผลิตเหล็กของประเทศไทย ว่า สามารถผลิตได้ประมาณปีละ 4,000,000 ตัน แต่จากข้อมูลของสภาอุตสาหกรรมพบว่ามีความต้องการเหล็ก เฉพาะเตา EAF ซึ่งเป็นเตาไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ควบคุมคุณภาพได้มากกว่า สามารถผลิตเหล็กได้เกินความต้องการของตลาดไปแล้ว ดังนั้นการยกเลิกการผลิตเหล็กโดยเตา IF นอกจากจะเป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องมลภาวะแล้ว ยังช่วยอุตสาหกรรมเหล็กด้วย เพราะระบบเตา IF หลายประเทศมีการยกเลิกไปแล้ว
นายเอกนัฏ? ยังระบุอีกว่า วันนี้กว่าจะจัดการกับสิ่งเหล่านี้ได้ เขาไม่ธรรมดา เขาหัวหมอ ต้องใช้สติปัญญาเต็มที่ เพราะขาดเอกสารเองเรียกประชุม อ่านกฎหมายเองทุกข้อ ดูกระบวนการวิธีการปฏิบัติทุกอย่าง บอกให้รัดกุมรอบคอบทั้งหมด จึงไม่มีเวลาที่จะไปกินเรื่องอื่น? ส่วนเรื่องเหล็กไม่ต้องไปถามใครไกล ขอให้ไปถามสมาคมเหล็กได้เพราะรู้พฤติกรรม รู้สิ่งที่มันเกิดขึ้นจริง ว่ามีการใช้อิทธิพลหรือผลประโยชน์ กระทำผิด ไปตรวจสอบดูตรงนั้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews