“วาร์ดี้” ประกาศอำลา ”เลสเตอร์” หลังจบฤดูกาลนี้

เจมี่ วาร์ดี้ ดาวยิงวัย 38 ปี ประกาศอำลา เลสเตอร์ ซิตี้ หลังรับใช้สโมสรมานานกว่า 13 ปี
สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ประกาศยืนยันว่า “เจมี่ วาร์ดี้” กองหน้าระดับตำนานของสโมสรจะอำลาสโมสรในช่วงซัมเมอร์นี้ หลังจากค้าแข้งกับทีมมาอย่างยาวนานถึง 13 ฤดูกาล และกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร
เจมี่ วาร์ดี้ วัย 38 ปี ย้ายมาจากสโมสรฟลีตวู้ด ทาวน์ ด้วยค่าตัว 1 ล้านปอนด์ในปี 2012 และคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, คอมมูนิตี้ ชิลด์ และแชมป์แชมเปี้ยนชิพ 2 สมัยในยุคทองของสโมสรเลสเตอร์
เกมสุดท้ายของ เจมี่ วาร์ดี้ ในสนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม 2568 โดยเป็นเกมพรีเมียร์ลีก นัดพบกับ อิปสวิช ทาวน์ ซึ่งเป็นโอกาสที่เขาจะได้อำลาแฟนบอลที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอดเส้นทางนักฟุตบอล จากนักเตะนอกลีกสู่หนึ่งในสุดยอดดาวยิงของพรีเมียร์ลีก
“นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวว่า วาร์ดี้ คือคนที่พิเศษจริง ๆ เขาเป็นนักเตะที่ไม่เหมือนใคร และยิ่งไปกว่านั้น เขาเป็นคนที่พิเศษอย่างแท้จริง
เขาอยู่ในใจของทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเลสเตอร์ ซิตี้ และแน่นอนว่าเขาได้รับความเคารพ และความรักจากผม ผมรู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้งสำหรับทุกสิ่งที่เขามอบให้กับสโมสรฟุตบอลแห่งนี้
แม้ว่าเส้นทางการเป็นนักเตะของ วาร์ดี้ จะสิ้นสุดลง แต่เขาและครอบครัวจะได้รับการต้อนรับกลับสู่คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม อย่างอบอุ่นเสมอในฐานะครอบครัวของเรา
ในฐานะตัวแทนของทุกคนที่เลสเตอร์ ซิตี้ ผมขออวยพรให้ วาร์ดี้ และครอบครัวพบเจอแต่สิ่งที่ดีที่สุดในอนาคต และผมมั่นใจว่าแฟนบอลของเราทุกคนจะร่วมกันมอบการอำลาที่เหมาะสมกับเขาในช่วงท้ายฤดูกาลนี้ นายอัยยวัฒน์ กล่าว
ด้าน วาร์ดี้ กล่าวในวิดีโอที่ เลสเตอร์ โพสต์บนโซเซียลมีเดีย ระบุว่า “ถึงแฟนๆ เลสเตอร์ ผมเสียใจมากที่วันนี้ต้องมาถึง แต่ผมรู้ดีว่ามันจะต้องมาถึงในที่สุด”
“ผมใช้เวลา 13 ปีที่น่าเหลือเชื่อกับสโมสรแห่งนี้ มีทั้งความสำเร็จมากมาย และบางครั้งก็มีเรื่องร้าย แต่ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นช่วงที่ดีที่สุด”
“ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ต้องเรียกมันว่าวันนี้แล้ว ซึ่งผมรู้สึกเสียใจมาก แต่ผมคิดว่าตอนนี้มันเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้ว”
แข้งวัย 38 ปี เป็นผู้เล่นคนสุดท้ายที่เหลืออยู่จากความสำเร็จของเลสเตอร์ในการคว้าแชมป์ลีกเมื่อปี 2016 ที่ยังอยู่ยังคิง พาวเวอร์ส เตเดี้ยม
เขายังคงอยู่กับเลสเตอร์หลังจากทีมตกชั้นในปี 2023 และช่วยให้สโมสรกลับมาสู่พรีเมียร์ลีกทันทีในปี 2024
วาร์ดี้ จะอำลาเลสเตอร์ ซิตี้ ในฐานะดาวซัลโวสูงสุดอันดับสาม และผู้เล่นที่ลงสนามมากที่สุดเป็นอันดับสามในประวัติศาสตร์ของสโมสร
รวมถึงเป็นบุคคลสำคัญในทุกความสำเร็จของเราในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่การอยู่รอดในพรีเมียร์ลีก อย่างปาฏิหาริย์ในฤดูกาล 2014/15 “เดอะ เกรท เอสเคป” ไปจนถึงการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ลีกสูงสุดด้วยอัตราต่อรอง 5000/1 ในฤดูกาลถัดมา ซึ่งถูกยกให้เป็นหนึ่งในความสำเร็จทางกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล
วาร์ดี้ คือหัวใจความสำเร็จของทุก ๆ ช่วงเวลาครั้งนั้น รวมถึงการทำสถิติยิงประตูในพรีเมียร์ลีก 11 นัดติดต่อกัน ซึ่งเป็นสถิติที่ยังไม่มีใครทำลายได้จนถึงทุกวันนี้ ทำให้ วาร์ดี้คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี ของพรีเมียร์ลีก รวมถึงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีจากสมาคมผู้สื่อข่าวฟุตบอล (FWA)
หลังจากนั้น เขายังคงเดินหน้าทำประตูอย่างต่อเนื่องในรายการระดับยุโรป ทั้งยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และยูฟ่า ยูโรป้า ลีก พร้อมกับคว้ารางวัลดาวซัลโวรองเท้าทองคำพรีเมียร์ลีกด้วยผลงาน 23 ประตูในฤดูกาล 2019/20 อีกด้วย
นอกจากการคว้าแชมป์แชมเปี้ยนชิพ 2 สมัยกับเลสเตอร์ ซิตี้ โดยครั้งล่าสุดเขารับบทกัปตันทีมซึ่งเกิดขึ้นห่างจากครั้งแรกถึงหนึ่งทศวรรษ และวาร์ดี้ยังมีบทบาทสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรเมื่อปี 2021
เจมี่ วาร์ดี้ ยังสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักเตะเพียงคนเดียวที่เคยลงเล่นในทุกรอบของการแข่งขันเอฟเอ คัพ ตั้งแต่รอบคัดเลือกไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ถึงความทุ่มเท มุ่งมั่น และพรสวรรค์ที่ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในสุดยอดของวงการฟุตบอลอังกฤษ
สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ จะร่วมกันแสดงความขอบคุณและกล่าวคำอำลาต่อ เจมี่ วาร์ดี้ ตำนานนักเตะผู้ยิ่งใหญ่ของสโมสร ก่อนเกมพรีเมียร์ลีกที่สนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม นัดสุดท้ายของฤดูกาล เพื่อยกย่องผลงานและความทุ่มเทที่มีให้กับสโมสรตลอดมา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews