Home
|
ข่าว

ต่างชาติลงทุนในไทย เพิ่มขึ้น 53% กว่า 47,000 ล้าน

Featured Image
ต่างชาติลงทุนในไทย ไตรมาสแรก68 เพิ่มขึ้น 53% เงินลงทุนกว่า 47,000 ล้านบาท ญี่ปุ่น อันดับหนึ่ง ลงทุนกว่า 15,900 ล้านบาท
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า ไตรมาสแรกปี 2568  มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 จำนวน 272 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 47,033 ล้านบาท โดยต่างชาติที่เข้ามาลงทุนอันดับแรกของไตรมาสแรก ปี 2568 ได้แก่ ญี่ปุ่น 57 ราย คิดเป็นร้อยละ 21 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 15,915 ล้านบาท  รองลงมาเป็นสหรัฐอเมริกา 35 ราย คิดเป็นร้อยละ 13 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย เงินลงทุน 1,490 ล้านบาท และจีน เป็นอันดับ 3 ตำนวน 34 ราย คิดเป็นร้อยละ 12  ของจำนวนธุรกิจต่างชาติ เงินลงทุน 6,083 ล้านบาท
เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2567 พบว่า การอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย เพิ่มขึ้น 94 ราย คิดเป็น 53% และมีมูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้น  11,131 ล้านบาท คิดเป็น 31% โดยจำนวนนักลงทุนที่เข้ามาสูงสุดยังคงเป็นนักลงทุนญี่ปุ่นเช่นเดียวกับปีก่อน
นางอรมน เพิ่มเติมว่า สำหรับการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568  มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC 88 ราย คิดเป็น 32%  ของจำนวนนักลงทุนต่างชาติในไทย เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกปี 2567 จำนวน 32 ราย โดยมีมูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC 24,234 ล้านบาท คิดเป็น 52% ของเงินลงทุนทั้งหมด  เป็นนักลงทุนจากประเทศ ญี่ปุ่น 27 ราย ลงทุน 9,295 ล้านบาท จีน 22 ราย ลงทุน 3,685 ล้านบาท สิงคโปร์ 9 ราย ลงทุน 2,194 ล้านบาท และประเทศอื่นๆ อีก 30 ราย ลงทุน 9,060 ล้านบาท
โดยธุรกิจที่ลงทุน อาทิ ธุรกิจค้าปลีกสินค้า (แม่พิมพ์ (Mould) ที่ใช้สำหรับผลิตชิ้นส่วนพลาสติก อุปกรณ์และชิ้นส่วนสำหรับซ่อมแซมเครื่องทำความเย็น ชิ้นส่วนสำหรับซ่อมแซมเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิตยางรถยนต์ ธุรกิจบริการเคลือบผิวผลิตภัณฑ์โลหะ ธุรกิจบริการให้ใช้แพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า โลหะและชิ้นส่วนโลหะขึ้นรูป ที่นั่งนิรภัยในรถยนต์สำหรับเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง แก้วเก็บความร้อน เป็นต้น

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube