Home
|
ข่าว

“ธีระชัย”แนะหยุดแจกเงิน-เร่งปฏิรูปโครงสร้าง

Featured Image
“ธีระชัย” เตือนกู้เงิน 5 แสนล้านไร้ประสิทธิภาพ เสี่ยงซ้ำเติมเศรษฐกิจ แนะหยุดแจกเงิน-เร่งปฏิรูปโครงสร้าง หวั่นนายทุนได้ประโยชน์แทนประชาชน

 

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ฝ่ายเศรษฐกิจ แถลงเตือนรัฐบาลกรณีเตรียมกู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจหลัง IMF ปรับลดประมาณการจีดีพีไทยปี 2567 และ 2568 ลงอย่างต่อเนื่อง โดยชี้ว่าการก่อหนี้เพิ่มเติมจะทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นกว่า 3% ของจีดีพี จากปัจจุบันที่อยู่ที่ 64.21% และส่งผลให้ภาระหนี้ต่อประชาชนสูงขึ้นอีก ทั้งที่หนี้ต่อหัวอยู่แล้วกว่า 160,000 บาทต่อคน

 

นายธีระชัย เน้นย้ำว่า การกู้เงินมาแจกเพื่อกระตุ้นการบริโภค แม้จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวระยะสั้น แต่ไม่สร้างประสิทธิภาพและไม่ก่อรายได้ในอนาคต ซึ่งจะทำให้ประเทศมีปัญหาในการใช้หนี้ในระยะยาว พร้อมยกตัวอย่างโครงการแจกเงินหมื่นที่ใช้งบประมาณ 1.75 แสนล้านบาท แต่ได้ผลน้อยและไม่เกิดแรงส่งทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

 

ทั้งนี้ นายธีระชัย เสนอให้ประชาชนจับตาการทำงานของรัฐบาลใน 5 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1.ลดการกู้และลดแจกเงิน: หลีกเลี่ยงการใช้หนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแบบไร้เป้าหมายที่ยั่งยืน 2.เกลี่ยงบประมาณ: ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นและเร่งด่วนก่อนที่จะคิดกู้เงินเพิ่ม 3.แก้ต้นเหตุสินเชื่อ: เร่งหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อผ่อนคลายนโยบายการเงิน เพิ่มการแข่งขันในระบบสถาบันการเงิน ปรับโครงสร้างหนี้อย่างจริงจัง และลดกำไรส่วนต่างดอกเบี้ย  4.ยกเลิกแจกเงินหมื่นเฟส 3 เพื่อเก็บ “กระสุนทางการคลัง” ไว้ใช้ในยามวิกฤตจริง และ 5.ปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ: ลงทุนในระบบการศึกษา พัฒนาทักษะแรงงาน ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีใหม่อย่าง AI และขยายความร่วมมือเศรษฐกิจในภูมิภาค

 

นายธีระชัย ยังเตือนด้วยว่า ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจโลก รัฐบาลอาจพยายาม “ขายฝัน” ว่าจะเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส แต่มีความเสี่ยงที่โอกาสนั้นจะตกไปอยู่ในมือของนายทุนที่ใกล้ชิดกับพรรคการเมือง มากกว่าจะตกถึงมือประชาชนอย่างแท้จริง

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube