Home
|
ข่าว

กห.สั่งแปรสภาพสถานกักตัว เป็นหอผู้ป่วย

Featured Image
กห.กำชับหน่วยขึ้นตรง ระดมทรัพยากรที่มีอยู่เร่งสนับสนุน สธ.รับมือกับสถานการณ์โควิด แปรสภาพสถานกักตัว เป็นหอผู้ป่วย

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า  พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและปลัดหระทรวงกลาโหม ได้เรียกประชุมหน่วยขึ้นตรงกลาโหม (นขต.กห.) เหล่าทัพ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)และตำรวจ (ตร.) ผ่านระบบทางไกล เพื่อเร่งเสริมและสนับสนุนการทำงานของ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)รับมือกับสถานการณ์ COVID-19 โดยพล.อ.ชัยชาญ ได้กำชับทุกเหล่าทัพ ขอให้เร่งขับเคลื่อนงานตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่สั่งการให้เร่ง ระดมทรัพยากร ที่มีอยู่เข้าไปเสริมและสนับสนุนการทำงานของ สธ.รับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ปัจจุบัน มีผู้ป่วยติดเชื้อและรอรับการรักษามากขึ้น

โดยขอให้เร่งจัดทำห้องผู้ป่วยหนัก (ICU) และขยายความสามารถของโรงพยาบาลทหาร พร้อมทั้งจัดหาพื้นที่ในหน่วยทหารเพิ่มเติม ควบคู่ไปกับการสนับสนุนหน่วยราชการในพื้นที่ จัดทำโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้น ทั้งให้จัดรถพยาบาลจาก รพ.ทหาร รวมการให้การสนับสนุน รับและเคลื่อนย้ายผู้ป่วยตกค้างเข้ารับการรักษา พร้อมยังได้กำชับ ขอให้เร่งแปรสภาพสถานกักตัวควบคุมโรคของรัฐ (SQ) ที่ กลาโหมดูแลอยู่รวม 22 แห่ง เป็นหอผู้ป่วย (Hospitel) รองรับผู้ป่วยที่ฟื้นตัวจาก รพ.โดยเร็ว จำนวน 7 แห่ง รองรับผู้ป่วยได้ 1,712 เตียง สามารถปฏิบัติงานได้ภายในต้น พ.ค.64

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประสานกับกระทรวงการต่างประเทศและยังคงการบริหารจัดการ SQ ที่เหลืออยู่ให้มีเพียงพอกับปริมาณคนไทยในต่างประเทศที่ประสงค์เดินทางกลับต่อไป

นอกจากนี้ ขอให้ทุกเหล่าทัพ พิจารณาจัดบุคลากรในสายงานแพทย์ที่ผ่านการอบรม เข้าไปช่วยเสริมการทำงานของ สธ.ในการรับสายด่วน 1668 เพื่อรองรับปริมาณการแจ้งและดูแลผู้ป่วยที่มีมากขึ้นด้วย  พร้อมทั้งขอให้พิจารณาสนับสนุน กทม.เป็นการเร่งด่วน จัดตั้ง รพ.สนามในพื้นที่คลองเตย ซึ่งมีผู้ติดเชื้อจากการแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้น เพื่อสนับสนุนการรักษาและการควบคุมโรคร่วมกันในภาพรวม

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube