Home
|
ทั่วไป

อย่ากลัว…ศพผู้ป่วยโควิด แพร่เชื้อไม่ได้

Featured Image
อย่ากลัว…ศพผู้ป่วยโควิด แพร่เชื้อไม่ได้

เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่พบผู้ติดเชื้อหลักพันรายติดต่อกันนานกว่า 1 สัปดาห์ ซึ่งส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มจำนวนขึ้นตามไปด้วย วันนี้สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ได้นำเกร็ดความรู้วิธีจัดการกับ”ศพผู้ป่วยโควิด” มาบอกเล่าให้ฟัง โดยจะบอกว่าศพของผู้ป่วยโควิดนั้น ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ใครหลายๆคนคิด หากมีการจัดการถูกต้องตามหลักวิธีของกระทรวงสาธารณสุข

ก่อนที่จะไปถึงขึ้นตอนจัดการกับศพของผู้ป่วยโควิด เราขอมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า เชื้อไวรัส “โควิด-19” เป็นเชื้อที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจและแพร่ระบาดด้วยการไอ จาม หรือจากสารคัดหลั่งของผู้ป่วย ซึ่งหากคนปกติเข้าไปใกล้ชิดหรือคลุกคลีกับผู้ป่วยในระยะน้อยกว่า 1 เมตร ก็มีโอกาสติดเชื้อได้ทันที แต่เมื่อใดที่ผู้ป่วยโควิด เสียชีวิตลงระบบทางเดินหายใจหยุดทำงาน เท่ากับว่าการแพร่กระจายเชื้อจากการไอ จาม หรือสารคัดหลั่ง ไปสู่คนอื่นๆไม่สามารถทำได้แล้ว

ดังนั้นขอทำความเข้าใจกับทุกคนอีกครั้งว่า หากผู้ป่วยโควิด เสียชีวิต ก็ไม่สามารถแพร่เชื้อได้อีก จนถึงตอนนี้คาดว่าทุกคนคงเข้าใจตรงกันแล้วว่าทำไมศพของผู้ป่วยโควิดถึงไม่น่ากลัว

ส่วนสาเหตุที่ศพของผู้ป่วยโควิด ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนั้น ทางสถาบันบำราศนราดูร และสถาบันพยาธิวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้อธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนวิธีการดูแลจัดการกับศพของผู้ป่วยโควิด เอาไว้ดังนี้

  1. ดูแลร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมศักดิ์ศรี ทีมแพทย์จะดูแลร่างของผู้เสียชีวิตให้สมศักดิ์ศรีความเป็นคนไทย โดยจะใช้ทีมแพทย์ที่มีความชำนาญในเรื่องโรคติดเชื้อและผ่านการซักซ้อมพิธีจัดการศพ
  1. ศพจะถูกฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์ 70% เจ้าหน้าที่ที่สวมชุดป้องกันตามมาตรฐานสากลจะนำร่างผู้เสียชีวิตไปชุบน้ำยาแอลกอฮอล์ 70% พ่นฆ่าเชื้อทุกด้าน ทุกซอก และใช้สำลีชุบน้ำยาแอลกอฮอล์อุดตามอวัยวะทวารต่างๆ ของผู้เสียชีวิตเพื่อให้สะอาดที่สุด
  1. บรรจุร่างในถุงซิปหนา 3 ชั้น จากนั้นร่างผู้เสียชีวิตจะถูกบรรจุในถุงซิปที่มีความหนาจำนวน 3 ชั้น โดยถุงแต่ละชั้นผ่านการฉีดน้ำยาแอลกอฮอล์ 70% พ่นฆ่าเชื้อด้วยเช่นกัน
  1. บรรจุร่างใส่ถุงแต่ละชั้นต้องปลอดเชื้อ! ระหว่างการรูดซิปชั้นที่ 1 เจ้าหน้าที่จะต้องฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์พ่นฆ่าเชื้อที่ถุงซิป จากนั้นผู้บรรจุศพต้องออกจากห้องเพื่อถอดชุดป้องกันทุกอย่างออก แล้วไปทำความสะอาดร่างกาย ก่อนจะกลับมาบรรจุร่างใส่ถุงซิปชั้นที่ 2 โดยทำซ้ำแบบเดียวกันจนครบ 3 ชั้น เพื่อให้มั่นใจว่าถุงซิปแต่ละชั้นไม่มีโอกาสที่จะมีเชื้อโรค
  1. นำร่างไปแช่แข็ง หลังจากนำร่างผู้เสียชีวิตบรรจุลงในถุงซิป 3 ชั้นแล้ว ศพผู้ป่วยจะไม่ได้ถูกฉีดน้ำยา แต่จะถูกนำไปแช่แข็งที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียสแทน
  1. ไม่อนุญาตให้อาบน้ำศพ ทีมแพทย์มีคำแนะนำสำหรับญาติให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด คือ ไม่อนุญาตให้ญาติการอาบน้ำ และไม่อนุญาตให้ญาติสัมผัสจับต้องศพ หรือใช้มือเปล่าเปิดถุงซิปออกเอง
  1. การเผาศพมีความร้อนสูง เชื้อโรคตายหมด! ตามธรรมชาติของเชื้อโรคที่อยู่ในเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย เมื่อใดที่ร่างกายนั้นๆ เสียชีวิตลง เซลล์และเนื้อเยื่อก็จะหยุดทำงาน ทำให้เชื้อโรคอยู่ไม่ได้ ก็ต้องตายตามไปเช่นกัน อีกทั้งโดยปกติการเผาศพจะใช้ความร้อนที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 70 องศาเซลเซียส ทำให้เนื้อเยื้อ ผิวหนัง และกระดูกของร่างมอดไหม้ ดังนั้นเชื้อโรคจะตายหมดแน่นอน

นอกจากนี้ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ได้ออกมายืนยันด้วยว่า ศพของผู้เสียชีวิตจากโรค โควิด-19 ไม่สามารถแพร่เชื้อได้ เนื่องจากเชื้อได้ตายไปพร้อมกับผู้เสียชีวิต และขอให้วัดดำเนินการรับศพผู้เสียชีวิตไปดำเนินการพิธีกรรมทางศาสนา โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีการติดเชื้อแต่อย่างใด

ดังนั้นขอยืนยันว่าศพผู้ป่วยโควิด -19 ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ใครหลายๆคนคิดและศพไม่สามารถแพร่กระจายเชื้อไปสู่คนอื่นได้อย่างแน่นอน

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube