Home
|
ข่าว

โฆษก กมธ. ป.ป.ช. คาดปม”ธรรมนัส”ชัดเจนสัปดาห์หน้า

Featured Image
“ธีรัจชัย” โฆษก กมธ. ป.ป.ช. คาดปม”ธรรมนัส” คดียาเสพติดชัดเจนสัปดาห์หน้า ยันเคารพคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ

นายธีรัจชัย พันธุมาศ โฆษกกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่าที่ประชุมได้พิจารณาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญกรณีร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เคยต้องคำพิพากษาศาลออสเตรเลียให้จำคุกคดียาเสพติดมา

โดยประเด็นหลักที่ทาง กมธ.หยิบยกมาพิจารณาคือกรณีการรับรองสถานะตัวเองก่อนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี มีการปกปิดไม่บอกข้อมูลการต้องคำพิพากษาถูกศาลออสเตรเลียสั่งจำคุกให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีรับทราบหรือไม่, การลงสมัคร ส.ส. มีการปกปิดข้อมูลเรื่องการต้องคำพิพากษาหรือไม่, การขอรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ต้องมีการรับรองตัวเองเคยต้องคำพิพากษาหรือไม่ และสุดท้ายคือกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส เคยทำหนังสือแจ้งข้อมูลต่อ กมธ. ป.ป.ช. เมื่อ 12 ธ.ค. 2562 มีข้อมูลใดคลาดเคลื่อนจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ว่าทั้งหมดอาจมีความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4) (5) คือต้องเป็นบุคคลที่มีความสุจริตเป็นที่ประจักษ์และต้องไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่

โดยประเด็นทั้งหมดนั้นทางกรรมาธิการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมาธิการชุดที่ 2 ซึ่งตนเองเป็นประธานพิจารณาต่อในรายละเอียด ซึ่งคาดว่าในสัปดาห์หน้าน่าจะมีความชัดเจนว่าจะสามารถยื่นดำเนินการต่อในประเด็นไหนอย่างไร

พร้อมกันนี้ ย้ำว่า เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่กำหนดบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นั้นเพื่อเป็นการกลั่นกรองบุคคลที่จะเข้าสู่การใช้อำนาจรัฐทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ โดยจะต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต ปราศจากมลทินและไม่มีประวัติที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประโยชน์สาธารณะ เพราะการใช้อำนาจหากนำบุคคลที่มีประวัติไม่โปร่งใสเข้ามาโอกาสที่จะใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรมก็อาจมีมากขึ้น พร้อมยืนยันว่าการดำเนินการดังกล่าวนั้นดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ตามหลักการและความสุจริตโดยเคารพคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube