นายกฯ รับมอบกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์ 274,000 ราย สู้โควิด ยัน ไม่ท้อ แม้มีข่าวบิดเบือน ฉีดวัคซีน เชื่อไม่นานทุกอย่างจะดีขึ้น
ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ได้ให้นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สำนักงาน คปภ. สมาคมประกันชีวิตไทยสมาคมประกันวินาศภัยไทย มูลนิธิสิริวัฒนภักดี มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ และบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เข้าพบเพื่อ มอบกรมธรรม์ ประกันภัยคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์ของภาครัฐและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพื่อส่งมอบบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด จำนวน 274,000 ราย วงเงินความคุ้มครอง 275,410 ล้านบาท เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้บุคลากรดังกล่าว โดยมีนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย
โอกาสนี้นายกรัฐมนตรี ได้ขอบคุณสำนักงาน คปภ. สมาคมประกันชีวิตไทย สมาคมประกันวินาศภัยไทย มูลนิธิสิริวัฒนภักดี มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ และบริษัทไทยเบฟเวอเรจจำกัด (มหาชน) ที่ได้มอบกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองบุคลากรทางการแพทย์ของภาครัฐและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด ซึ่งทำงานอย่างเต็มที่ด้วยความเสียสละและเสี่ยงภัยตลอดเวลา
ในส่วนของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคนก็พยายามทำอย่างเต็มที่และให้ดีที่สุด ” ขอยืนยัน นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไม่ท้อแท้ แม้ที่ผ่านมาจะมีการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนต่างๆ แต่เชื่อมั่นภายในระยะเวลาไม่นานทุกอย่างจะดีขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้เร่งรัดฉีดวัคซีนให้มากขึ้นตามปริมาณวัคซีนที่กำลังจะเข้ามาเพิ่ม “
อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนระมัดระวังดูแลตัวเองให้ดีที่สุดและปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
นอกจากนี้ สมาคมประกันวินาศภัยไทยได้มอบเครื่องช่วยหายใจให้แก่โรงพยาบาลสนามบุษราคัม ณ อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วยโรคติดเชื้อโควิด-19 ให้สามารถดูแลรักษาพยาบาลได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที จำนวน 50 เครื่อง รวมมูลค่า 10,500,000 บาทด้วย
นายกฯ และครม.ร่วมบริจาค 2.9 ล้าน ประเดิมเป็นเป็นประธานมอบเงินช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันแก้ไขปัญหาโควิด-19
ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในการมอบเงินช่วยเหลือแก่เจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 24 ราย จากเงินบริจาค บัญชี “สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรับบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)”
นายกรัฐมนตรี ยืนยันให้การดูแลบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้ดีที่สุด เพราะไม่ต้องการให้ใครต้องติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งสิ้น พร้อมขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่ได้ทุ่มเทกำลังกายและกำลังใจในการปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเต็มความสามารถ ทั้งนี้ รัฐบาลและ ศบค. ได้เตรียมมาตรการต่าง ๆ อย่างเต็มที่ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และขอความร่วมมือประชาชนดำเนินการตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
สำหรับการมอบเงินช่วยเหลือดังกล่าวสืบเนื่องจากนายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2563 ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจัดตั้งกองทุนสนับสนุนการดำเนินการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อให้ความช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สนับสนุนที่ปฏิบัติงาน ด้าน COVID-19 ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติงาน โดยนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีได้ร่วมบริจาคเงินเป็นทุนประเดิมจำนวน 2,995,510 บาท รวมทั้งมีหน่วยงานภาคเอกชนและประชาชนผู้มีจิตสาธารณะร่วมบริจาคเงินสมทบในบัญชีดังกล่าว โดยมียอดเงินบริจาค ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2564 จำนวน 28,327,896.82 บาท ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการบริหารจัดการเงินบริจาคฯ ได้อนุมัติการให้ความช่วยเหลือเพื่อเป็นกำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สนับสนุนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แล้ว รวมทั้งสิ้น 102 ราย เป็นเงินจำนวน 3,800,000 บาท
สำหรับการระบาดระลอกปัจจุบัน ได้ให้ความช่วยเหลือแก่เจ้าหน้าที่ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม จำนวน 24 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 730,000 บาท
ทั้งนี้ ยังมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงข้อมูลบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สนับสนุนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ฯ อีกจำนวนหนึ่งที่เพื่อประกอบการพิจารณาให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news