นายกฯ อนุมัติให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ โฆษก ยืนยัน บุคลากรทางการแพทย์เข้ารับวัคซีนเกือบหมดแล้ว ย้ำรัฐบาลดูแลค่ารักษาพยาบาลกับผู้ป่วยโควิดอย่างเต็มที่ตามสิทธิ์
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ (11พ.ค.64) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีมติอนุมัติให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติเพื่อรณรงค์ให้มีการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นและสร้างความเชื่อมั่น ว่ารัฐบาลจะสามารถจัดหาวัคซีนทันต่อสถานการณ์และรวดเร็ว โดยในที่ประชุมนายกรัฐมนตรีได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเชิญชวนประชาชน ออกมาฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ และลดความรุนแรงจากการติดเชื้อ เพื่อขับเคลื่อนในด้านของการเปิดประเทศ และใช้ชีวิตได้อย่างเดิม พร้อมยืนยันว่าจากผลการฉีดวัคซีนทั่วโลกพบผลข้างเคียงน้อยมาก
โดยนายอนุชา ยืนยันว่า ขณะนี้บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ส่วนมากได้รับการฉีดวัคซีนครบเกือบทั้งหมดแล้วอีกทั้งยังมีการลงทะเบียนผ่านไลน์หมอพร้อม ในกลุ่มผู้สูงวัยและกลุ่มที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังซึ่งหลังจากนี้รัฐบาลจะเดินหน้าฉีดเพิ่มเติม ให้กับบุคลากรส่วนอื่นๆโดยประสานขอความร่วมมือจากภาคเอกชน อาทิ ผู้ที่เดินทางบ่อยหรือต้องพบปะกับคนจำนวนมากๆ เช่น พนักงานส่งของ, ผู้ขับรถสาธารณะ, พนักงานขายร้านสะดวกซื้อ, ผู้ให้บริการในร้านอาหาร และพนักงานด้านการท่องเที่ยวและโรงแรม เป็นต้น ซึ่งรัฐบาลมีความมุ่งมั่นว่าในเดือน มิ.ย. จะสามารถปูพรมฉีดวัคซีนเข็มแรกได้ซึ่งจะเปิดให้องค์กรต่างๆจัดสรรพนักงานที่มีความเสี่ยงทยอยเข้ารับการฉีดวัคซีน ซึ่งในส่วนของกรุงเทพมหานครได้จัดตั้ง 14 ศูนย์ และจะเดินหน้าเพิ่มเติมเป็น 25 ศูนย์ เพื่อให้บริการกับประชาชนทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑลด้วย
นายอนุชา ยืนยันว่า รัฐบาลจะให้ความดูแลค่ารักษาพยาบาลกับประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19 อย่างเต็มที่ตามสิทธิ์ ตั้งแต่การตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงการฉีดวัคซีนการชดเชยในกรณีที่ได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนและการรักษาพยาบาลทั้งในส่วนของโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชน
ขณะที่โรงพยาบาลบุษราคัม ที่อิมแพคเมืองทองธานีนั้น จัดตั้งขึ้นเพื่อดูแลผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเหลือง ที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการรุนแรง ซึ่งพร้อมรับผู้ป่วยแล้ว 1,092 เตียง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news