นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยม “ศูนย์บริการวัคซีนจามจุรีสแควร์” ยึดหลัก 3 ป. ปลอดภัย ปูพรม ประสิทธิภาพ เน้นฉีดครู อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา และกลุ่มผู้ให้บริการสาธารณะ ให้ทันเปิดเทอม มิ.ย.นี้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมี นายบัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดี จุฬาฯ และ นพ.นรินทร์ หิรัญสุทธิกุล รองอธิการบดีจุฬาฯ และประธานคณะกรรมการอำนวยการโรงพยาบาลสนาม จุฬาฯ ให้การต้อนรับ
โดยเมื่อนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงได้รับฟังการบรรยายสรุป จากนั้นได้ตรวจเยี่ยมการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 การให้บริการฉีดวัคซีน ณ อาคารจัตุรัสจามจุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ใช้หลักการสำคัญ คือ ปูพรม- ฉีดวัคซีนให้มากที่สุด โดยยึดหลัก 3 ป. คือ ปลอดภัย ปูพรม ประสิทธิภาพ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้รับบริการเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อสูง ได้แก่ ครู อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา และกลุ่มผู้ให้บริการสาธารณะ เช่น พนักงาน ขสมก. ฯลฯ โดยทีมแพทย์ พยาบาล เภสัชกรที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มีการเตรียมระบบให้วัคซีนที่ปลอดภัยและครบถ้วนในทุกขั้นตอนจนถึงการดูแลและสังเกตอาการ
โดย นพ.นรินทร์ กล่าวว่า จุดบริการฉีดวัคซีนที่อาคารจัตุรัสจามจุรี จะสามารถให้บริการบุคลากรที่เป็นกลุ่มเป้าหมายได้วันละ 1,000-1,500 คน จึงขอความร่วมมือประชาชนอย่าเพิ่งวอล์คอินเข้ามาในเวลานี้ ให้รอติดตามการแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมก่อนเพื่อลดความแออัด โดยกรณีประชาชนทั่วไป จะพิจารณาแนวทางกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งว่า จะเปิดรับได้อย่างไร จึงขอให้ติดตามข้อมูลจากช่องทางต่างๆอย่างใกล้ชิด แต่ขณะนี้เน้นที่กลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก โดยพยายามฉีดบุคลากรด้านการศึกษาย่านสีลม สาทร และจุฬาให้ได้ร้อยละ 70 เพื่อให้ทันต่อการเปิดการเรียนการสอนในเดือนมิถุนายน
ทั้งนี้ กระบวนการรับวัคซีน มีการนำเทคโนโลยีจากนวัตกรรมของคนไทย เช่น เป็ดไทยสู้ภัย เข้ามาใช้ในการจองคิวล่วงหน้า เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการ นอกจากนี้ยังมีการออกแบบระบบที่เชื่อมโยงข้อมูลกับระบบสาธารณสุขของประเทศผ่านกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยมีระบบการลงทะเบียนเป็นกลุ่ม (Group Registration) เพิ่มศักยภาพในการฉีดวัคซีนได้เป็นจำนวนมาก และเข้าถึงประชาชนได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ศูนย์บริการวัคซีน จุฬาฯ ยังได้ออกแบบให้มีบรรยากาศสวยงาม มีศิลปะและดนตรีที่ดำเนินการโดยคณะศิลปกรรมศาสตร์ในบริเวณพักรอเพื่อลดความเครียดแก่ผู้เข้ารับบริการด้วย ทั้งนี้ ศูนย์พร้อมให้บริการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม เป็นต้นไป
ขณะที่บรรยากาศที่จุดบริการวัคซีนอาคารจัตุรัสจามจุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้มีประชาชนจำนวนมากรอให้กำลังใจ นายกรัฐมนต โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงอาคารจามจุรีสแควร์ มีประชาชนเดินทางมารอ ให้กำลังใจ และถ่ายรูปนายกรัฐมนตรี ที่บริเวณลิฟต์แก้ว ชั้น 1
ซึ่งนายกรัฐมนตรี มีสีหน้าอารมณ์ดี ยิ้มแย้มให้กับประชาชนที่รอต้อนรับ โดยได้มีการชู 2 นิ้ว ซึ่งเป็นการแสดงสัญลักษณ์ว่า “สู้ๆ” ในขณะที่นายกรัฐมนตรีอยู่ในลิฟท์แก้วกำลังขึ้นไปชั้นบน
นายกฯชื่นชมภาครัฐ-เอกชน ร่วมมือฉีดวัคซีน เล็งขยายจุดบริการ ให้ได้ 25 แห่ง ขอให้มั่นใจทุกคนต้องได้ฉีด ย้ำต้องฟังหมอ อย่าเชื่อโซเชียลบิดเบือน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตรวจเยี่ยมการให้บริการฉีดวัคซีนของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยณ อาคารจัตุรัสจามจุรี ชั้น 4 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ และตรวจเยี่ยมหน่วยความร่วมมือบริการวัคซีนโควิด 19 กรุงเทพมหานคร – สภาหอการค้าไทย – โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ – สามย่านมิตรทาวน์ ณ ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้ถือได้ว่าเป็นความร่วมระหว่างกันได้เป็นอย่างดี ทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมกันทำในสิ่งที่ดีๆ แต่อย่างไรก็ตามต้องมีกติกากฎหมายกลาง มาตรฐานกลางที่จะต้องปฏิบัติ โดยจะมีการขยายจุดบริการวัคซีนนอกสถานพยาบาลให้ได้ 25 จุดในระยะต่อไป แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับวัคซีนที่มาเนื่องจากต่อให้มีร้อยจุด แต่วัคซีนไม่พอ ก็เป็นไปไม่ได้ พร้อมกับระบุว่า รัฐบาลต้องดูแลทั้งหมดโดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้รัฐบาลให้ความสำคัญกับภาคอุตสาหกรรม ทั้งการจ้างงาน แรงงานและมีผลิตภัณฑ์ส่งออก จึงต้องระมัดระวังการแพร่ระบาดในโรงงานต่างๆ และตนขอขอบคุณเจ้าของโรงงานที่มีมาตรการป้องกันที่เข้มแข็ง
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ทุกที่มีโอกาสติดเชื้อแต่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และเมื่อเกิดแล้วก็ต้องแก้ไขปัญหากันต่อไป ด้วยความร่วมมือของทุกคนนอกจากนี้ยังต้องทำความเข้าใจกับประชาชนในการลงทะเบียนเพื่อเข้ารับวัคซีน เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่เข้าใจ มากันเต็มไปหมด แล้วก็ไม่ได้ฉีดหลายคนเอารูปนายกฯไปใส่ในโซเชียล เขียนข้อความย่อสั้นๆ ทำให้โดนโจมตีไปด้วย จริงๆแล้วต้องฟังหมอ ดูให้ละเอียด อย่าไปย่อในโซเชียลบางทีก็มีปัญหาไม่ตรงกัน
โดยนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า มีแผนงาน ที่จะเปิดวัคซีนวอร์คอิน หากมีปริมาณเพียงพอ ขอให้มั่นใจว่าทุกคนได้ฉีดแน่นอน จะช้า-เร็วก็มีบ้าง ต้องฝากสิ่งที่ต้องกังวลมากที่สุดคือต้องดูแล ร้านอาหาร รายได้ประชาชนลดลง คนตกงาน การลงทุน การส่งออก ผู้ให้บริการสาธารณะ แท็กซี่ ตนคิดว่าวันนี้ดูแลใกล้ชิดที่สุด
นายกฯให้ ผู้ว่าฯ ดูแลกระจายวัคซีนรายจังหวัด กังวลเฟคนิวส์ ขอร้องอย่าเผยแพร่ ยัน”หมอพร้อม”ไม่มีปัญหา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการจัดการวัคซีนในรายจังหวัด ว่า ได้มอบหมายให้ผู้ว่าฯเป็นประธานคณะกรรมการบริหาร ร่วมกับ สสจ.จังหวัด ซึ่งมาตรการและแผน ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงก็สามารถปรับได้ เว้นแต่สถานการณ์เปลี่ยนก็ปรับไปตามนั้น ขออย่าให้สับสนอลหม่านไปมากกว่านี้ รัฐบาลได้สั่งการให้วัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ มีนโยบายออกมาให้ปฏิบัติต่อไปวันนี้ไม่เชื่อหมอได้อย่างไร
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า รู้สึกกังวลกับเฟคนิวส์ ตนขอร้องอย่าเผยแพร่ให้เป็นประเด็นในสื่อไปกันใหญ่ ตนห้ามไม่ได้ แต่ทุกคนต้องถือว่าต้องรักสามัคคี ร่วมมือกันให้ได้มากที่สุด
ส่วนแอปพลิเคชั่น หมอพร้อม นั้น นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ไม่มีปัญหาอะไร แต่ยอมรับเพราะทุกอย่างก็มีปัญหา อะไรที่ไม่เคยทำก็ทำแล้วมีปัญหาหมดและในเรื่องเทคนิค ก็ต้องมีจำเป็นต้องเร่งรัดในการดำเนินการ แรกๆก็มีปัญหาอยู่บ้าง แต่ต้องดำเนินการกันไป ระบบแบบนี้ไม่เคยมีในประเทศมาก่อนนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในรัฐบาลเรา ได้มีการเตรียมความพร้อมมาหลายปีแล้ว ถึงมีวันนี้หากไม่เริ่มมาหลายปีก่อน ในเรื่องของดิจิทัล ออนไลน์ 4G ก็ทำตรงนี้ไม่ได้บางทีก็ใช่ไปแบบไม่รู้ตัว แต่ขอต้องเห็นใจกันบ้าง ตนเห็นใจประชาชน ไม่มีอะไรที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เราอยากให้ร้อย แต่ก็ไม่ถึงก็ต้องแก้กันไป ปฏิเสธไม่ได้
นายกฯยันวัคซีนแอสตราฯถึงมือมิ.ย.ไม่สะดุด ยังไม่หยุดเจรจายี่ห้ออื่น ย้ำไม่มีใครได้รับผลประโยชน์
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงวัคซีนแอสตราเซเนกา ที่จะเข้ามาในช่วงเดือนมิถุนายนจะมีความล่าช้าหรือสะดุดหรือไม่ ว่า ไม่มีสะดุด และยืนยันว่า สามารถพูดคุยเจรจาได้ขอให้เขาส่งตามสิ่งที่สัญญากันไว้ และวันนี้ก็ยังไม่หยุดเจรจานำเข้าวัคซีนอื่น
พร้อมกับยืนยันว่า ตนไม่ปิดกั้นใคร วันนี้เขาไปพูดกันเสียๆหายๆ ถ้าใครมีผลประโยชน์ ตนก็ลงโทษเต็มที่อยู่แล้ว ตนขอยืนยันจะต้องไม่มีใครได้รับผลประโยชน์ทั้งสิ้น คนที่ได้รับประโยชน์คือประชาชน พร้อมกับระบุว่า เราจะต้องไม่ทำลายประเทศของเรา ไม่ทำลายความเป็นหนึ่งเดียวและโทษใครไม่ได้ กำลังกลับยังว่าตอนนั้นสามารถกำกับดูแลและบริหารจัดการได้
ส่วนการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามของนายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา ที่บริเวณเขตหลักสี่นั้น นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า เรียบร้อยแล้วอย่าไปเอาประเด็นมากนัก ตนทราบ ไม่ใช่ไม่ทราบและสั่งการไปแล้ว ตอนนี้ก็ดูแลผู้ป่วยอยู่แล้ว ไม่ต้องขออนุญาตอะไร เพียงแต่ต้องทำตามกติกาและกฎเกณฑ์ เพราะ อยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน บางคนไม่เข้าใจก็ไปขัดแย้ง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
