นายกฯเยี่ยมจุดฉีดวัคซีนโควิดบางกะปิ
นายกรัฐมนตรี ดูจุดวัคซีนบางกะปิ ยันมี 3.5 ล้านโดส เร่งกระจายฉีด จ่อคลายล็อกกินในร้านได้25%
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการทดลองระบบการฉีดวัคซีน ที่จุดฉีดวัคซีนโควิด-19 ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ
โดยระหว่างการตรวจเยี่ยม นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามเจ้าหน้าที่เรื่องจุดพักคอยของผู้ที่มารอฉีดวัคซีน เพราะเป็นห่วงว่า จะต้องนั่งรอนาน พร้อมพูดคุยกับคนที่มาฉีดวัคซีนว่า ให้กลับไปบอกคนอื่นด้วยว่า ไม่ต้องห่วง มาฉีดแล้วมีหมอดูแลอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังสอบถามว่า “ตื่นเต้นหรือไม่ มีลูกแล้วก็ไม่ต้องตื่นเต้นแล้ว ขอให้พื้นที่ฉีดวัคซีนเปิดเพลงคลอเพื่อผ่อนคลาย ขอให้ประชาชนหมั่นสวดมนต์ ให้ยึดหลักธรรมอิทธิบาท 4 และอริยสัจ 4 ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ขออย่าซีเรียสนะ นายกฯก็เสียงดังแบบนี้แหละ รักทุกคน ปลอดภัยทุกคน จากใจนายกฯ และรัฐบาล
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยระบุว่า ช่วงนี้เป็นการเดินสายดูแลพื้นที่ทั้ง กทม.-ปริมณฑล ทั้งนี้ ถ้าคิดคนละอย่างก็ไม่ได้ รัฐต้องการบริหารให้เกิดผลส่วนรวมให้ได้ สิ่งสำคัญที่สุด คือ การติดตามและตรวจสอบเฝ้าระวังทุกตารางนิ้วของประเทศไทย จากนั้น ก็เข้าสู่ระบบการรักษาและกักตัว วันนี้เป็นการร่วมมืออย่างดียิ่งกับภาคเอกชน การบริหารการแก้ปัญหาเรื่องโควิด ตนได้หารือกับทุกภาคส่วนมาตลอด ไม่ใช่เพราะการกดดันแล้วถึงจะดำเนินการ วันนี้ต้องไปด้วยกันทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เรื่องวัคซีน ยืนยัน ไม่ได้ปิดกั้น และค่อยๆ จัดมาหาเพิ่มเรื่อยๆ เดือนนี้จะได้วัคซีนเพิ่ม 3.5 ล้านโดส จะดำเนินเร่งกระจายฉีดโดยเร็ว พร้อมเน้นย้ำว่า ต้องช่วยกัน ตนเองไม่ได้โทษประชาชน แต่ก็จะโทษรัฐบาลไม่ได้ เพราะไม่ได้ไปขัดแย้งกับใคร
ส่วนกรณีที่จังหวัดบุรีรัมย์ ออกกฎเหล็กประชาชนกลุ่มเสี่ยงไม่ฉีดวัคซีนถึงขั้นติดคุกนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แล้วแต่ผู้ว่าฯ จะกำหนด ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการจังหวัดพิจารณาภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ ซึ่งก็ต้องดูแลรับผิดชอบตัวเองด้วย
สำหรับกรณีจังหวัดชายแดนที่ยังมีการลักลอบเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย จะต้องเข้มงวดขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็พื้นที่พักคอยและกักตัวที่ได้สั่งการไว้แล้ว โดยต้องคัดกรองตามกระทรวงสาธารณสุข
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงแนวทางการผ่อนคลายเรื่องการรับประทานอาหารในร้าน ซึ่งได้ให้แนวทาง ศบค. ไปพิจารณากับกระทรวงสาธารณสุข เบื้องต้น เสนอให้รับประทานอาหารในร้านได้ 25% หรือ 1 ใน 4 ก่อน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news