“ทักษิณ” แซะยกเลิกวอล์คอินฉีดวัคซีนเพราะมีของไม่พอ ถามอดีตผบ.ทบ.สถานการณ์ 7 ปีก่อนกับวันนี้ อะไรน่าปฏิวัติกว่ากัน “ยิ่งลักษณ์” แจมคำสัญญาตอนยึดอำนาจแก้ปัญหาประเทศไม่ได้
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมเสวนาในคลับเฮาส์ หัวข้อ “ปลดล็อกยูนีคสกิล สู่ยุดใหม่ของเยาวรุ่น” กับ Tony Woodsome ว่า เทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญ เช่น จีน เน้นไปที่หลัก เอ บี ซี ดี ฉะนั้น เป็นสิ่งที่จะเข้ามาพัวพันกับชีวิต ต่อการทำมาหากินให้ง่ายขึ้น เพราะวันนี้เป็นโลก ดิจิทัล ดังนั้น เล่นโซเชียลมีเดีย ต้องลงลึกกว่านั้น อย่าไปสนุกอย่างเดียว เพื่อนำประยุกต์ไปใช้ทำงานในอนาคต วันนี้ฟังบริษัททำเกม หาเงินจากเกม หาโฆษณา ความจริง เอาของโบราณมาทำเป็นดิจิทัล เช่น เน็ตฟิก คือ ร้านเช่าวิดีโอ ซึ่งเกมเช่นกัน เมื่อก่อนซื้อทีละตลับ แต่วันนี้มีการแข่งขันอีสปอร์ต เป็นวิธีการหาเงินคนรุ่นใหม่ วันนี้ต้องการหาอะไร ต้องไปเอาจริงตรงนั้น
อดีตนายกฯ ยังกล่าวต่อด้วยว่าสำหรับช่วงโควิด คนรุ่นใหม่หลายคนทั่วโลก อย่าง อินเดีย เจนแซด สมัครงานจากบ้าน โดยรับเด็กมีสกิลต่างๆ จ้างงานในที่ถนัด สามารถเรียนหนังสือ และทำงานไปด้วยได้ ในโลกอนาคตอยากฝากรัฐบาล พ่อแม่ ต้องดูแลเจนอัลฟ่า ให้ดี เพราะจะกลุ่มฉลาดมาก และต้องเตรียมส่งเสริมคนกลุ่มนี้
นายทักษิณ ยังมีการพูดถึงประเด็นวอร์คอินฉีดวัคซีนว่ามีการให้ข้อมูลไม่ตรงกัน เช่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เตรียมจัดให้วอร์คอิน แต่เมื่อนายกฯ ไปดู แล้วมายกเลิก ส่วนตัวเข้าใจว่าวัคซีนไม่พอ และกลัวว่าจะเกิดแพนิค
ทั้งนี้ในช่วงท้ายที่นายทักษิณ ตอบคำถามประเด็นการเมืองเกี่ยวกับคณะรัฐประหารจะอยู่อีกนานมั้ย โดยตอบว่า ปัจจุบันประชาชนไม่สนใจว่าใครคือนายกฯแต่สนใจเรื่องความเป็นอยู่ ดังนั้นหากศรัทธาเสื่อมทางออกคือการยุบสภา แต่จากรัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตย สร้างความเข้มแข็งให้เก้าอี้นายกฯ แต่ทำลายส่วนอื่นนั้นทำให้กลไกนั้นเดินไปไม่ได้ และอยากถามอดีตผบ.ทบ.ว่าสถานการณ์ตอนนั้นกับวันนี้ เวลาไหนควรทำการรัฐประหารมากกว่ากัน ขณะเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ได้มาร่วมตอบคำถามด้วยว่า 7 ปีที่ผ่านไป ประชาชนได้อะไรบ้าง คำสัญญาของผู้นำรัฐประหารไม่สามารถแก้ปัญหาของประเทศได้ ตนเองไม่ลำบากแต่ประชาชนลำบากมาก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
