รบ.ปลื้มดัชนีความสำเร็จหลายด้านในสายตานานาชาติ
รัฐบาลปลื้ม ดัชนีความสำเร็จไทยหลายด้านอยู่ระดับดีในสายตาต่างชาติ มั่นใจการบริหารงานภายใต้การนำ “พล.อ.ประยุทธ์”
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประเทศไทยยังคงเป็นประเทศที่น่าสนใจและได้รับการจัดอันดับที่ดี มีความน่าเชื่อถือ และเป็นที่น่าสนใจ ในสายตาต่างชาติ โดยได้รับการจัดอันดับที่น่าสนใจด้านเศรษฐกิจ และการลงทุนจากหลายๆหน่วยงานในระดับโลก อาทิ เป็นอันดับ 1 ตลาดเกิดใหม่ที่น่าลงทุนที่สุดในปี 2564 จากการจัดอันดับของ Bloomberg Study เป็นอันดับ 1 ประเทศที่มีความทุกข์ยากทางเศรษฐกิจน้อยที่สุดในโลกประจำปี 2563 จากการจัดอันดับของ Bloomberg Survey, เป็นอันดับ 1 ประเทศที่เหมาะกับการเริ่มต้นธุรกิจมากที่สุดประจำปี 2563 จากการจัดอันดับโดยสำนักข่าว US News และเป็นอันดับ 2 ประเทศที่น่าเข้ามาลงทุนประจำปี 2563 จัดอันดับโดยสำนักข่าว US News ซึ่งสอดคล้องกับการจัดอันดับของสถาบันจัดอันดับเครดิตของโลกอย่าง มูดี้ส์ ฟิทช์เรตติ้ง และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส คงอันดับความน่าเชื่อถือ ของไทย ที่ BBB+ และยังคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยอยู่ในระดับมีเสถียรภาพ
การจัดอันดับที่ดีเหล่านี้ เป็นผลมาจากการทำงานอย่างหนักในการดำเนินนโยบายเพื่อให้ประเทศไทยอยู่ในเรดาร์ เป็นตลาดที่น่าสนใจทางการลงทุน จนส่งผลให้คะแนนรายงานความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) ที่จัดทำโดยธนาคารโลกดีขึ้น โดยล่าสุดในปี 2563 ประเทศไทยได้ที่ 21 จาก 190 ประเทศ ซึ่งเทียบกับปีก่อนดีขึ้น 6 อันดับ รวมทั้งไทยได้ดำเนินมาตรการ Ten for Ten ตามข้อเสนอแนะจากเอกอัครราชทูตจาก 5 ประเทศ และหอการค้านานาชาติแห่งประเทศไทย เพื่อยกระดับการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจของประเทศไทยให้สามารถติด 10 อันดับแรกได้ในเร็ววันนี้
นอกจากนี้ การจัดอันดับของบริษัท Japan Credit Rating Agency, Ltd. (JCR) บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ระดับ A- และยืนยันมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ (Stable outlook) เนื่อจากรัฐบาลได้ดำเนินมาตรการทางการเงินและการคลัง เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยหลังจากไตรมาสที่ 2 ของปี 2563 เริ่มฟื้นตัว และ JCR คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2564 จะกลับมาเติบโตประมาณร้อยละ 3 นอกจากนี้ ในเดือนมีนาคม ปี2564 บริษัท Rating and Investment Information, Inc. (R&I) ประเทศญี่ปุ่น ได้ประกาศการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ A- และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) เช่นกัน สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในแนวทางการดำเนินโยบายของรัฐบาลและทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวและเติบโต
พร้อมกันนี้ ไทยยังได้รับการจัดอันดับเกี่ยวกับด้านสาธารณสุขที่น่าชื่นชม อาทิ อันดับ 1 ประเทศที่ฟื้นตัวและรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ดีที่สุด (Ongoing COVID-19 recovery effort 2020) จากข้อมูลดัชนีโควิด-19 ระดับโลก (Global COVID-19 Index-GCI) จัดอันดับโดยสถาบัน PEMANDU และอันดับ 4 จากทั้งหมด 98 ประเทศ ที่จัดการกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประจำปี 2563 และอันดับ 8 ประเทศ ที่มีระบบสาธารณสุขที่ดีที่สุด ประจำปี 2564 (Health Care Index 2021) จัดอันดับโดย Numbeo Surve
ซึ่งรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ดำเนินนโยบายโดยยึดผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญตลอดมา ซึ่งตัวเลขการจัดอันดับเหล่านี้เป็นหลักฐานประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชมผลสำเร็จที่เกิดขึ้น โดยถือว่าตัวเลขเหล่านี้เป็นกำลังใจที่สำคัญในการทำงาน และได้ขอบคุณการทำงานของทุกภาคส่วนที่ทำงานร่วมกันอย่างหนักตลอดจนหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อเดินหน้าประเทศไทยต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news