นายกฯหารือ รมต.กห.ญี่ปุ่น ย้ำความสัมพันธ์และการดำรงบทบาทที่ใกล้ชิดกันระหว่างกันทั้งพหุพาคีและทวิภาคี พร้อมเสริมสร้างความร่วมมือทางทะเล
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ร่วมหารือกับ นาย KISHI Nobuo ( คิชิ โนบุโอะ) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ณ ห้องประชุม ทำเนียบรัฐบาล
โดยทั้งสองฝ่าย ได้ย้ำความสัมพันธ์และการดำรงบทบาทที่ใกล้ชิดกันระหว่างกันทั้งพหุพาคีและทวิภาคี โดยเฉพาะความร่วมมือทางทหาร ที่มีการแลกเปลี่ยนการฝึก การศึกษากันในระดับต่างๆ ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ รวมทั้งข้อเสนอร่างความตกลงระหว่างกัน ด้านการมอบ/โอนยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาร่วมกัน ต่อจากนั้นได้หารือถึงความร่วมมือกันถึงปัญหาความมั่นคงของ ภูมิภาค ทั้งแก้ปัญหาในเมียนมา ทะเลจีนใต้และคาบสมุทรเกาหลี และโรคระบาดของ COVID-19
ด้านนาย KISHI Nobuo ( คิชิ โนบุโอะ) ย้ำข้อเรียกร้องของญี่ปุ่นต่อเมียนมาและสนับสนุนผลักดันแถลงการณ์อาเซียนในการแก้ปัญหาในเมียนมา โดยพร้อมสนับสนุนทำงานร่วมกับไทยในการแก้ปัญหา ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นมีความกังวลต่อสถานการณ์ในทะเลจีนใต้และคาบสมุทรเกาหลี ที่มีการปฏิบัติไม่สอดคล้องกับกฎหมายสากล โดยญี่ปุ่นแสดงความจำนงต่อการปฏิบัติความมั่นคงทางทะเลที่เสรีและเปิดเผยภายใต้กฎหมายสากล และยินดีทำงานร่วมกับไทยในฐานะผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียนกับญี่ปุ่น โดยเฉพาะความร่วมมือด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ พร้อมกันนี้ ญี่ปุ่นพร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกับไทยในการแก้ปัญหา COVID-19 ที่เกิดขึ้นโดยเชื่อว่าไทยสามารถควบคุมได้ในอนาคตอันใกล้ พร้อมกับขอบคุณไทยที่สนับสนุนการฝึกร่วมทางทหารที่ผ่านมา
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความร่วมมือทางทะเล และสนับสนุนการดำรงบทบาทอย่างสร้างสรรค์ของทุกประเทศ เพื่อให้ทะเลจีนใต้เป็นทะเลแห่งสันติภาพ เปิดกว้างมีการพัฒนาที่ยังยืนและไม่มีข้อพิพาทระหว่างกัน สำหรับสถานการณ์ในเมียนมา ไทยพร้อมสนับสนุนถ้อยแถลงอาเซียนในการเจรจา การปรองดองและกลับคืนสู่สภาวะปกติ ตามเจตจำนงและผลประโยชน์ของประชาชนในเมียนมา และยืนยันดูแลผู้หลบหนีภัยชาวเมียนมาตามหลักมนุษยธรรม พร้อมขอขอบคุณญี่ปุ่นที่มีบทบาทสร้างสรรค์ในการพัฒนาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงที่ผ่านมา และยืนยันความพร้อมในการเป็นที่ตั้งของศูนย์อาเซียนด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ที่ญี่ปุ่นสนับสนุน และ?พร้อมให้ความร่วมมือทำงานกับญี่ปุ่น กระชับความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและดำรงบทบาทอย่างเข้มแข็งในการรักษาผลประโยชน์ของภูมิภาคร่วมกัน
นายกฯเชื่อมั่น รมต.แจงความจำเป็นของแผนงานที่เสนอในร่างพ.ร.บ.งบฯ65 ได้ชัดเจน ย้ำไม่อยากให้เป้นการตอบโต้ แต่ให้สร้างความเข้าใจกับประชาชน
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยหลังการประชุม ครม. ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมีความเชื่อมั่นในรัฐมนตรีทุกท่านว่าจะชี้แจงเรื่องความจำเป็นของแผนงานโครงการที่เสนอในร่างพ.ร.บ.งบประมาณแผ่นดินพ.ศ. 2565 ได้ชัดเจน ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้เป็นแนวทางไว้ ว่า ไม่อยากให้เป็นการตอบโต้ แต่ให้เป็นการสร้างการรับรู้ ความเข้าใจกับประชาชน ชี้ให้เห็นถึงแผนงานของรัฐบาลในการขับเคลื่อนประเทศสู่อนาคต ประเทศไทยต้องเดินหน้าต่อ มีแผนการค้า การลงทุน การพัฒนาโครงสร้างทางสังคม ที่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลก ประเด็นใดที่สังคมมีข้อสงสัยก็ขอให้ชี้แจงให้ครบ
ทั้งนี้ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รายงานผลการประชุมหารรือร่วมกันกับวิปสามฝ่ายต่อ ครม.ว่าการพิจารณาวาระที่หนึ่งขั้นรับหลักการร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี65 นี้ ได้กำหนดการประชุมทั้งหมด 4 วัน เริ่มประชุมในวันจันทร์ที่ 31 พ.ค.64 เวลา 09.30 น. ถึงวันพฤหัสบดีที่ 3 มิ.ย.64 (เวลา 01.00 น.) โดยการจัดสรรเวลาแบ่งเป็น คณะรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาล 22 ชั่วโมง พรรคร่วมฝ่ายค้าน 22 ชั่วโมง
ซึ่งการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ มีจำนวน 64 คน ประกอบด้วยคณะรัฐมนตรี 16 คน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 48 คน แบ่งเป็นสัดส่วนแต่ละพรรคการเมือง คือ เพื่อไทย 13 คน, พลังประชารัฐ 12 คน, ภูมิใจไทย 6 คน, ก้าวไกล 5 คน, ประชาธิปัตย์ 5 คน และพรรคละ 1 คน คือ พรรคชาติไทยพัฒนา, เสรีรวมไทย, ประชาชาติ, เศรษฐกิจใหม่ รวมพลังประชาชาติไทย เพื่อชาติและพลังท้องถิ่นไทย
ส่วนการอภิปรายพ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ.2564 และ พ.ร.ก.ให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคนา 2019 พ.ศ.2564 ซึ่งจะมีขึ้นในวันพฤหัสที่ 27 และวันศุกร์ที่ 28 พ.ค.64 คณะรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาลได้รับการจัดสรรเวลาอภิปราย 9 ชั่วโมง และพรรคร่วมฝ่ายค้าน 9 ชั่วโมง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news