สภาเตรียมพิจารณาพรบ.งบฯต่อเป็นวันที่ 3 ประธานสั่งพักการประชุมเที่ยงคืน สมาชิกส่วนใหญ่อภิปรายโจมตีรัฐบาลล้มเหลว
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท วันสุดท้าย
จะเริ่มขึ้นในเวลา 09:00 น. โดยเมื่อวานนี้ประธานสั่งพักการประชุมในเวลา 00.5 น. สำหรับภาพนวมการอภิปรายวานนี้ ส่วนใหญ่สมาชิกฝ่ายค้านยังคงพุ่งเป้าโจมตีรัฐบาลล้มเหลวในการวางยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ 6 ด้าน ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
โดยไม่ให้ความสำคัญกับปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งงบประมาณปี 2565 ไม่ได้ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน ทั้งเรื่องเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หากสภาฯ อนุมัติงบประมาณปี 2565 ที่ขาดดุลถึง 7 แสนล้านบาท จะเท่ากับเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลทำผิดพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ และเห็นว่าการแก้ปัญหาเรื่องงบลงทุนโดยเพิ่มแหล่งลงทุน โดยเฉพาะการกู้เงินตามพระราชบัญญัติหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2542 ไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหางบประมาณ แต่จะยิ่งทำให้ระบบงบประมาณอ่อนแอลง
นอกจากนี้ การที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณไม่เหมาะสม มีหลายหน่วยงานที่ต้องปรับลด อาทิ งบประมาณในการจัดซื้ออาวุธของกองทัพ งบกลางที่ซ้ำซ้อนกับหลายกระทรวง และควรเลื่อนงบซื้ออาวุธแบบผูกพันข้ามปี ทั้งของกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และกองทัพไทย จำนวน 70 โครงการ มูลค่า 108,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้มีงบเพื่อประชาชนอีก 24,200 ล้านบาท และมีหลายหน่วยงานที่ต้องปรับเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเพิ่มกำลังพลมากกว่ากำลังคนในภาคสาธารณสุขและการศึกษา โดยรัฐบาลควรตัดงบที่ไม่จำเป็นและไม่ใช่ภารกิจหลักของทหารออกไป เพราะภารกิจหลักของทหารคือการป้องกันประเทศ ดังนั้นภารกิจอื่นควรโอนไปให้พลเรือนดำเนินการ รวมทั้งการลดบุคลากรของกองทัพ
ขณะงบประมาณด้านการศึกษานั้น กระทรวงศึกษาธิการได้รับการจัดสรรงบประมาณลดลงจากปีที่แล้ว 2.4 หมื่นล้านบาท จึงต้องการให้รัฐบาลมีความจริงใจมุ่งมั่น และตั้งใจพัฒนาประเทศด้านการศึกษา และใช้งบประมาณให้คุ้มค่าต่อการลงทุนโดยการยกระดับคุณภาพการศึกษาให้มีมาตรฐาน ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news