ตำรวจสภา แจงไทม์ไลน์ เหตุการณ์ กระทบกระทั่งผู้ติดตาม “ธรรมนัส” รับ “ 2 ผอ.หญิง” พาขอโทษโดยไม่ได้สมัครใจ ยันทำหน้าที่ตามกฎระเบียบ
สำหรับเหตุการณ์การปะทะระหว่าง ตำรวจสภา และทีมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เกิดขึ้นบริเวณอาคารบี 2 ห้องโถงกลาง ซึ่งเป็นทางขึ้นไปยังห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ของบรรดาสมาชิกรัฐสภา และคณะรัฐมนตรี ( ครม.) โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 31 พ.ค. ซึ่งเป็นวันแรกในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 เป็นวันแรก
ซึ่งบริเวณจุดดังกล่าวมีการติดป้ายไว้ว่า ทางเข้าเฉพาะ ส.ส. ส.ว.เท่านั้น ผู้ติดตามและบุคคลภายนอกห้ามเข้า” และ “เฉพาะสมาชิกเท่านั้น” เพื่อป้องกันความวุ่นวาย และเป็นมาตรการป้องกันโควิด-19 ของสภาผู้แทนราษฎร
ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกเรียกให้ไปขอโทษ ร.อ.ธรรมนัส เข้าไปชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยนายชวนเรียกพบ 2 ครั้ง ช่วงแรกเวลา 20.00 น. เรียกไปให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากถือว่าเคร่งครัดตามกฎระเบียบที่ได้บังคับเอาไว้ในการป้องกันโควิด -19
จากนั้น เวลา 22.00 น. ภายหลังทำหน้าที่ประธานในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรเรียบร้อยแล้ว นายชวน ก็ได้เรียกตำรวจคนดังกล่าวมาสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นโดยตำรวจคนดังกล่าวเล่า ว่า
ในวันดังกล่าว ร.อ.ธรรมนัส มีผู้ติดตามมา 5 คน และ 1 คนไม่ได้ติดบัตร จึงทำให้ตำรวจสภาได้แจ้งให้ติดบัตร และขอให้ผู้ติดตามไปเข้าประตูทางด้านอื่น เพราะพื้นที่ตรงนั้นถือเป็นพื้นที่หวงห้ามและให้เข้าได้เฉพาะ ครม. และสมาชิกรัฐสภาเท่านั้น
แต่ผู้ติดตาม ร.อ.ธรรมนัส ยังยืนยันที่จะเดินเข้าไปด้วยจนมีการถกเถียงกับตำรวจสภา ทำให้ ร.อ.ธรรมนัส ที่เดินนำหน้าไปก่อนหน้านั้น ได้หันมามองด้วยอาการไม่พอใจ พร้อมกับพูดว่า “จะเอาอะไรกันนักหนา เพราะปกติก็เข้าได้ทุกวัน”
ตำรวจสภา รายนั้นแจ้งว่า ห้ามคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นมาตรการเข้มข้นของท่านประธาน เพราะเป็นช่วงโควิด ร.อ.ธรรมนัสจึงถามกลับอย่างมีอารมณ์ว่าประธานคนไหน ใครสั่ง” ตำรวจจึงอ้างชื่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ส่งผลให้ ร.อ.ธรรมนัส ถึงกลับนิ่งไปครู่หนึ่ง แต่ยังให้ทั้ง 5 คนขึ้นบันไดเลื่อนไปห้องชั้น 2 โดยขณะนั้น มีข้าราชการหญิงระดับผู้อำนวยการ ( ผอ.) สองคนรออยู่บริเวณชั้นสอง และจากนั้นก็มีการประสานมาให้ตำรวจสภาคนดังกล่าว ขึ้นไปขอโทษ ร.อ.ธรรมนัส
นายตำรวจ คนดังกล่าว แจ้งกับนายชวนว่า บุคลิกของตนเองพูดเสียงดัง ไม่ได้ตั้งใจก้าวร้าวและเมื่อเหตุการณ์ผ่านไป ก็ได้มีการประสานให้ตนเข้าไปขอโทษ ร.อ.ธรรมนัส ที่นั่งรออยู่ที่โซฟาหน้าห้องประชุม และ ผอ.ผู้หญิง ที่อยู่ในที่นั้นด้วย ได้แจ้งกับตำรวจคนดังกล่าวว่า “อย่ายืนค้ำหัวท่าน” ทำให้ตำรวจต้องคุกเข่าและก็ได้ยกมือขอโทษ ซึ่งเหตุการณ์นี้ ส.ส.คนอื่นๆ ที่อยู่รอบห้องประชุมสภาก็เห็น ซึ่งนายชวน ให้ตำรวจเรียกมาชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะเห็นว่า มีข้าราชการสภาฯ เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
ทั้งนี้ เมื่อ ผอ.หญิงทั้ง 2 คน ทราบว่า นายชวน เรียกตำรวจที่มีเรื่องเข้าไปสอบถามข้อเท็จจริง ก็พยายามมาดักรอหน้าห้องพักนายชวน เพื่อขอเข้าไปชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ้าง ทั้งๆ ที่นายชวน ไม่ได้เรียก แต่เมื่อนายชวน ทราบว่า ทั้ง 2 คนมาพบ ก็เรียกเข้าไปคุย และได้ตำหนิพฤติกรรมข้าราชการหญิงดังกล่าว และยืนยันว่า จากการสอบถามแล้ว ตำรวจไม่ได้ผิด เหตุใดต้องให้ตำรวจเข้าไปขอโทษ เพราะตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดตามกฎระเบียบที่ประธานรัฐสภากำชับไว้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news