Home
|
ข่าว

“อนุทิน”เร่งฉีดวัคซีนครู-บุคลากรศึกษารับเปิดเทอม

Featured Image
“อนุทิน” เร่งฉีดวัคซีนครู-บุคลากรการศึกษา รับเปิดเทอม นำเข้าแอสตราเซนเนกา ยังยึดตามสัญญา วางแผนฉีดเด็กต่ำกว่า 18 ปี หลังมีไฟเซอร์เข้ามา

จากกรณีการกำหนดเปิดภาคเรียนในวันที่ 14 มิถุนายน 2564 โดยแต่ละพื้นที่ มีมาตรการแตกต่างกันออกไป ซึ่งมีความกังวลว่าอาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ล่าสุด 11 มิถุนายน 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า เมื่อมีการกำหนดอย่างไร ก็ต้องปฏิบัติกันไปเช่นนั้น

สำหรับทางกระทรวงสาธารณสุข จากที่เคยให้บริการวัคซีนโควิด-19 แก่บุคลากรด้านการคมนาคมขนส่ง จากนี้ จะเร่งให้บริการครู และบุคลากรด้านการศึกษาด้วย นอกจากนั้นยังต้องร่วมมือกัน ฝึกให้เด็กคุ้นชินกับการใช้หน้ากากป้องกันโรค แน่นอนว่าเป็นเรื่องยาก หากจะหวังให้เด็กรู้จักการเว้นระยะห่าง แต่ถ้าเด็กมีหน้ากาก ก็ช่วยลดความเสี่ยงได้มากสำหรับการให้บริการวัคซีนแก่เด็ก ปัจจุบันนี้ กำลังดำเนินการนำเข้าวัคซีนของไฟเซอร์ ซึ่งทางผู้ผลิต ยืนยันว่าใช้กับเด็กได้ และไทยมีแผนฉีดให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ขณะเดียวกัน ยังรอพิจารณาผลการทดสอบวัคซีน Sinovac กับเด็ก 3 ขวบ หากมีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ ไทยก็ต้องนำมาพิจารณาปฏิบัติ เพื่อให้บริการนั้นครอบคลุมทุกช่วงอายุมากที่สุด

นายอนุทิน ยังกล่าวย้ำด้วยว่า การนำเข้าวัคซีนของแอสตราเซนเนกา ยังยึดถือตามสัญญา และปัจจุบัน ได้หารือทำสัญญาระยะยาวกับผู้ผลิตเจ้าอื่น เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการบริหารจัดการ และปัจจุบัน ได้มองไปถึงการฉีด เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ให้กับผู้ที่เคยรับบริการวัคซีนเมื่อช่วงต้นปี ซึ่งอาจจะได้รับวัคซีนในช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากการให้บริการ ต้องเป็นไปด้วยความต่อเนื่องเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ และรักษาระดับภูมิคุ้มกันในประชาชน ชัดเจนว่า เรื่องวัคซีนต้องวางแผนระยะยาว เช่นนี้ จึงให้ความสำคัญกับการให้ไทยได้เป็นฐานการผลิตวัคซีน ไปจนถึงการมีวัคซีนเป็นของตัวเอง ปัจจุบันวัคซีนที่ผลิตในไทย ได้ให้บริการไปแล้วนับล้านโดส ก็ยังไม่มีปัจจัยที่บ่งบอกว่าด้อยคุณภาพไม่มีความปลอดภัย ตรงนั้นสะท้อนความสามารถของคนไทย ระบบสาธารณสุขของไทยอยู่ในมาตรฐานที่สูง การรักษา เรายังยึดหลักว่าทุกคน ต้องได้รับการดูแลจากทีมแพทย์

ขณะที่เรื่องวัคซีน มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าไทยเริ่มต้นช้า ทั้งที่ไทยหารือกับผู้ผลิตมาตั้งแต่กลางปี 2563 ประสบความสำเร็จในการโน้มน้าวให้ผู้ผลิตเลือกไทยเป็นฐาน ในวันนี้ เราได้มีการจองวัคซีนเป็นจำนวนมาก และได้ทยอยฉีดไปกว่า 5 ล้านโดสแล้ว

ส่วนการทำงานกับหน่วยงานอื่น อาจมีความเห็นไม่ตรงกันบ้าง แต่ทุกฝ่ายมองการทำงานเป็นสำคัญ มองประชาชนเป็นสำคัญ ย่อมคุยกันรู้เรื่อง ยิ่งกับนายกรัฐมนตรี ขอย้ำว่าตนเคารพในฐานะผู้บังคับบัญชา จึงไม่เคยมีเรื่องให้ขุ่นข้องหมองใจกัน

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube