“วราวุธ” เดือด คลิปยิงฉลามดำ ลั่น พวกหนักแผ่นดิน สั่ง 2 กรม ใช้กฎหมายทุกฉบับเอาผิด ถึงที่สุด ทั้งคนล่า-เจ้าของเรือ
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์กรณีการเผยแพร่คลิปบนโลกโซเชียล มีกลุ่มชายหลายคนใช้เรือสปีดโบ๊ทออกไปตกปลาในทะเล แล้วตกฉลามขึ้นมา จากนั้นมีการใช้อาวุธยิงฉลามที่ว่ายเข้ามาใกล้กับเรือจำนวนหลายนัด ก่อนจะลากขึ้นมาบนเรือ และมีการโพสต์เฟซบุ๊ก ด้วยการลงภาพฉลาม 3 ตัว นอนตายเรียงกันอยู่ ซึ่งเป็นภาพที่สะเทือนใจของผู้ที่ได้เห็น ว่าได้เห็นคลิปและอ่านข่าวแล้วยอมรับว่ารู้สึกเสียใจ พร้อมกับรู้สึกโมโหและรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น วันนี้ประเทศไทยกำลังจะโดนสหรัฐแบนสินค้าประมงทุกชนิดอยู่ เพราะมีอัตราการตายของสัตว์น้ำหายากมากขึ้นทุกวันๆ คนพวกนี้เป็นคนที่กำลังจะฆ่าระบบการประมงของประเทศไทยด้วยความเห็นแก่ตัว การยิงฉลาม 3 ตัว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด จากในคลิปที่เห็นฉลามไม่ได้มาจู่โจม หรือมาจ้องทำร้าย และคนยิงอยู่บนสปีดโบ๊ท
ทั้งนี้ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอสัญญาว่าจะใช้กฎหมายทุกฉบับที่อยู่ในอำนาจ ดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนที่อยู่บนเรือนั้นรวมทั้งเจ้าของเรือด้วย โดยจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จะเอาให้ทุกคนเห็นว่า ประเทศไทยเราเอาจริงกับเรื่องแบบนี้ แต่วันนี้สิ่งที่เสียใจก็คือคนที่ก่อเหตุครั้งนี้เป็นคนไทยแล้วมาทำลายทรัพยากร มาทำร้ายสัตว์น้ำของคนไทยเราเอง ถ้าเป็นต่างชาติผมจะเนรเทศออกไปแล้ว แต่ผมเสียดายที่พวกคุณไม่ใช่คนต่างชาติ จึงเนรเทศพวกคุณออกจากแผ่นดินไทยไม่ได้ พวกนี้ต้องถือว่าหนักแผ่นดิน
นายวราวุธ กล่าวว่า เบื้องต้นเมื่อทราบเรื่องตนได้แจ้งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชแล้ว เพื่อให้ตรวจสอบว่าจุดที่เกิดเหตุนั้นอยู่ในพื้นที่การดูแลของใคร จึงได้กำชับทั้ง 2 กรม ให้ลงไปดูแลเรื่องนี้ทั้งคู่ และขอให้ตรวจสอบด้วยว่ามีกฎหมายฉบับใดสามารถดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้รวมถึงเจ้าของเรือ เช่นมีใบอนุญาตหรือไม่ เข้าพื้นที่โดยถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ และจะเร่งดำเนินการขึ้นบัญชีสัตว์ทะเลหายากอีกหลายชนิดเพื่ออนาคตที่มั่นคงของพี่น้องชาวประมงของไทย และปกป้องความอุดมสมบูรณ์ของทะเลไทยไว้ให้ลูกหลานของเรา
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news