นายกสั่งตั้งศูนย์ต้านข่าวปลอม-จับพนันออนไลน์จริงจัง
นายกฯ สั่งทุกส่วนราชการตั้งศูนย์ต่อต้าน ข่าวปลอม ประจำกระทรวง เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบอย่างทันท่วงที จี้จับพนันออนไลน์จริงจัง ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาอาชญากรรม
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการทุกส่วนราชการจัดตั้งศูนย์ต่อต้าน ข่าวปลอม /ข่าวบิดเบือน หรือ ศูนย์ต่อต้าน Fake News ประจำกระทรวง เพื่อชี้แจงข่าวสารที่บิดเบือนไปจากข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับทราบอย่างทันท่วงที
ซึ่งขณะนี้ หลายกระทรวงได้จัดตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม/ข่าวบิดเบือนประจำกระทรวงแล้ว อาทิ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงกลาโหม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น
ขณะที่บางกระทรวง แม้ไม่มีการจัดตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม แต่มีภารกิจงานรองรับ ทำหน้าที่ในการติดตามตรวจสอบและชี้แจง รวมทั้งทำหน้าที่ประสานศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมแห่งชาติด้วย อาทิ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ นอกจากนี้ กรมประชาสัมพันธ์ ยังมีการชี้แจงเกี่ยวกับข่าวปลอมเป็นประจำผ่านเว็บไซต์/เฟซบุ๊ก “ข่าวจริงประเทศไทย” อีกด้วย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรี ที่สั่งการให้ทุกส่วนราชการจัดตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม/ข่าวบิดเบือนว่า นายกรัฐมนตรีห่วงใยข้อมูลข่าวสารที่เผยแพร่ในหลายช่องทาง ที่สร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนให้ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ามีผู้มีเจตนาไม่หวังดีเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ หรือที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงผ่านสื่อออนไลน์เป็นจำนวนมาก ทำให้ประชาชนผู้ติดตามข่าวสารเกิดความเข้าใจผิด เกิดความสับสน
จึงอยากให้ทุกส่วนราชการช่วยกันตรวจสอบข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานตนเอง สกัดกั้นข่าวปลอม เร่งชี้แจงให้ข้อมูลที่ถูกต้องให้ประชาชนได้รับทราบอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน แต่ละหน่วยงานราชการก็จะดำเนินการทางกฎหมาย กับบุคคลที่จงใจเผยแพร่ข่าวบิดเบือนหรือข้อมูลเท็จ สร้างความตื่นตระหนกแก่สังคมอย่างเด็ดขาด โดยไม่ต้องรอให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการแต่ฝ่ายเดียว
นายกฯ สั่งการกวดขันจับกุมการพนันออนไลน์อย่างจริงจัง ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาอาชญากรรม
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยถึงการปฏิบัติตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ให้เข้มงวดการตรวจสอบ ป้องกันการลักลอบเล่นพนันออนไลน์ ซึ่งช่วงนี้พบมากในลักษณะการชักชวนให้ทายผลการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติ “ยูโร2020”
โดยทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เร่งดำเนินการอย่างจริงจัง ที่ผ่านมาจับกุมได้แล้วหลายราย อาทิ เครือข่ายเว็บไซต์ SUNMCSPORTS UFA168SURE ไลน์แอด Betclick89 ล่าสุด จับกุมอีกสองคดี เป็นเครือข่ายเว็บไซต์พนันบอล UFABET พบเงินหมุนเวียนประมาณ 200 ล้านบาทต่อเดือน ตรวจยึดทรัพย์สินเงินสดรวมมูลค่าเกือบ 20 ล้านบาท และเครือข่ายพนันออนไลน์จากฝั่งปอยเปต ที่มีลูกค้าทั่วเอเชีย มีเงินหมุนเวียนกว่า 300 ล้านบาท
ทั้งนี้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝากเตือนประชาชนว่า หากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพนันออนไลน์ ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องในการจัดให้มีการพนันฯ เป็นผู้เล่น หรือเป็นผู้เชิญชวนให้ผู้อื่นเข้าเล่นพนัน เช่น เซเลปฯ ยูทูปเบอร์ ล้วนมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน มาตรา12 มีโทษจำคุก 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจับทั้งปรับ
นอกจากนี้ หากการกระทำความผิดเป็นไปในลักษณะชักจูง ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด ผู้ปกครองหรือผู้กระทำผิดอาจถูกดำเนินคดีตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ในมาตรา 26(3) ประกอบมาตรา 78 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อนึ่ง การจัดให้มีการเล่นการพนันฯ ยังเป็นหนึ่งในมูลฐานความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ด้วย
นางสาวรัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กวดขันจับกุมและทำการสืบสวนปราบปรามการพนันออนไลน์อย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอาชญากรรมอื่น ๆ ที่อาจตามมา รวมถึงเข้มงวดในการป้องกันและจับกุมบุคคลที่ลักลอบเดินทางเข้า-ออกประเทศ เพื่อลักลอบเล่นการพนันตามแนวชายแดน
พร้อมฝากขอบคุณประชาชนที่ช่วยให้เบาะแสการกระทำผิด ถือว่ามีส่วนร่วมช่วยหยุดวงจรการพนันออนไลน์อย่างมาก ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งไปยังสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลข 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ เฟซบุ๊กเพจกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสายด่วน 1212 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยข้อมูลการแจ้งจะถูกปิดเป็นความลับ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news