รัฐสภาผ่านฉลุย ร่าง พรบ.ประชามติ 611:4 เสียง รณรงค์ได้อย่างเสรี ประชาชน 50,000 คน เข้าชื่อขอ ครม.ทำ ประชามติ ได้ เพิ่มวิธีการออกเสียงทางออนไลน์
การประชุมรัฐสภาวันนี้ ที่ประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ในวาระที่ 2 รายมาตราและให้ความเห็นชอบในวาระที่ 3 โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบในวาระที่3 ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียง ประชามติ ด้วยมติเสียง ข้างมาก 611 ต่อ 4 เสียง งดออกเสียง 2
โดยร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ มีทั้งสิ้น67 มาตรา มีสาระสำคัญ อาทิ
– ให้อำนาจประชาชนเข้าชื่อ 50,000 รายชื่อ ยื่นเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาออกเสียงประชามติในเรื่องต่างๆได้ รวมทั้งให้อำนาจ
– ประชาชน พรรคการเมือง และกลุ่มต่างๆ ในสังคมสามารถรณรงค์การออกเสียงประชามติได้อย่างเสรี
– เพิ่มวิธีการออกเสียงประชามติ นอกจากการกาบัตร ในคูหาแล้ว ให้สามารถออกเสียงทางไปรษณีย์ หรือการออกเสียงโดยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ หรือออกเสียงผ่านระบบออนไลน์ได้ในอนาคต
– กรณีออกเสียงประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้คณะรัฐมนตรีกำหนดวันออกเสียง ภายใน 120วัน
– ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เป็นเหตุให้การออกเสียงไม่เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม ฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่1-10ปี และปรับถึง 200,000บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด10ปี
– ผู้ใดทำลายบัตรออกเสียงหรือจงใจทำ ให้เป็นบัตรเสีย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 20,000บาท หากเจ้าพนักงานทำเองเสีย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน10ปี ปรับ 200,000บาท ตัดสิทธิเลือกตั้ง 10ปี
– ผู้ใดทำลายเครื่องลงคะแนน หรืออุปกรณ์ในการออกเสียง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 หากเจ้าพนักงานทำเองเสีย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับ 200,000บาท ตัดสิทธิเลือกตั้ง 10ปี
– ผู้ใดกระทำการทุจริต อาทิ ใช้บัตรปลอมลงคะแนน นำบัตรออกจากสถานที่ออกเสียง แจ้งข้อมูลการออกเสียงต่อผู้อื่น หรือออกเสียงแทนผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
– ผู้ใดก่อความวุ่นวาย หรือกระทำการอันเป็นการรบกวนในการออกเสียง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
ผู้ใดเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ เล่นการพนัน ซื้อหรือขายเสียง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท และตัดสิทธิการเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี
– ห้ามขนคนไปออกเสียงประชามติ หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท แต่ไม่ถูกตัดสิทธิเลือกตั้งเหมือนในอดีต
– กรณีกรรมการประจำหน่วยจงใจนับบัตร หรือรวมเอาคะแนนออกเสียงประชามติผิดไปจากความเป็นจริง ต้องระวางโทษจำคุก 10 ปี ปรับถึง 200,000 บาท ตัดสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
– ผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้นอกราชอาณาจักรต้องรับโทษในราชอาณาจักรด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news