“อนุทิน” พร้อม “หมอเกียรติภูมิ” เข้าพบนายกฯ รายงานเรื่องวัคซีนและการเตรียมความพร้อมรับมือเปิดประเทศตามนโยบาย 120 วัน แจงซื้อซิโนแวคแพง เพราะจำเป็นต้องใช้เร่งด่วน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเดินทางมาพร้อมกับนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิตร ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเข้าพบนายกรัฐมนตรีที่ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล หลังการประชุม ครม. เสร็จสิ้น โดยนายอนุทิน กล่าวว่า มารายงานเรื่องวัคซีนและการเตรียมความพร้อมรับมือเปิดประเทศตามนโยบายเปิดประเทศใน 120 วันของนายกรัฐมนตรี โดยกระทรวงสาธารณสุขได้นำนโยบายที่ได้รับมาเตรียมความพร้อมเพื่อให้นายกรัฐมนตรีได้ประกอบการตัดสินใจ เพราะเมื่อหากเปิดประเทศและพบคนติดเชื้อการบริหารจัดการยา เวชภัณฑ์ เตียงสนาม กระทรวงสาธารณสุขจะจัดการอย่างไร ซึ่งการมาพบนายกรัฐมนตรีในวันนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเสนอความเห็นว่าควรชะลอการเปิดประเทศออกไปก่อนหรือไม่ แต่เป็นการเสนอแผนเตรียมความพร้อมเพื่อทำให้นโยบายการเปิดประเทศเป็นไปได้มากที่สุด
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายให้ชะลอการเปิดประเทศออกไปก่อน เป็นเรื่องที่ต้องรับฟังและให้ความเห็นไปยัง ศบค. และพิจารณาเหตุผล แต่การจะเปิดประเทศต้องประเมินความเสี่ยง ความคุ้มหรือไม่คุ้ม ขณะเดียวกันการทำงานต้องมีเป้าหมายจะให้นายกรัฐมนตรีอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไร รอให้โควิดหายไปก่อนก็เป็นไปไม่ได้ เพราะตอนนี้ปิดมา 2 เดือนกว่าก็ทุกข์ใจไม่น้อย
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงเรื่องการกระจายวัคซีน ซึ่งมีเป้าหมายจะกระจายให้ทั่วถึงกับประชาชนทุกคนอยู่แล้ว โดยวัคซีนจะส่งไปตามข้อตกลงระหว่าง ศบค. กรมควบคุมโรค ซึ่งการฉีดวัคซีนในช่วงนี้สามารถฉีดได้ 3 แสนโดสต่อวัน ทำให้เห็นว่าประสิทธิภาพการฉีดวัคซีนก็มีอยู่ อีกทั้งวัคซีนทยอยส่งมาทุกอาทิตย์ พอมีสายพันธุ์อินเดียก็มีนักวิชาการ อาจารย์แพทย์ ที่ดูแลเรื่องนี้กำลังพิจารณาว่าควรจะมีการฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 หรือจะใช้วิธีฉีดผสมได้หรือไม่อยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล ซึ่งจะต้องมีความพร้อมในการจัดซื้อจัดหาให้ทันเวลาและเพียงพอ
นอกจากนี้นายอนุทิน กล่าวถึงกรณีที่นักวิชาการออกมาตั้งคำถามว่าเหตุใดรัฐบาลไทยจึงจัดซื้อวัคซีนซิโนแวคในราคาที่สูงกว่าแอสตราเซเนกา ว่า หากไม่ซื้อวัคซีนซิโนแวคก่อนหน้านี้ ในเวลานี้จะเห็นได้ว่าวัคซีนที่พร้อมส่งให้ในทุกๆ เดือนตั้งแต่ มี.ค. เป็นต้นมา คือ ซิโนแวค และจนถึงทุกวันนี้ก็ยังคงจัดส่งให้ต่อเนื่องเพราะเราเป็นลูกค้าที่ดี ซื้อโดยตรงไม่ได้ผ่านใครและเป็นวัคซีนที่กันสายการผลิตให้กับประเทศไทย ตัวอย่างเช่น วัคซีนไฟเซอร์เซ็นสัญญาไปบอกได้คิวที่ 3 แต่ถูกเลื่อนไปเป็นคิวที่ 4 ถามกลับว่ารอไหวหรือไม่
ในสถานการณ์การแพร่ระบาด ขณะนี้นายอนุทินย้ำว่า ไม่มีวัคซีนตัวไหนในโลกนี้ที่จะสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100% แต่ป้องกันอาการหนักหรือเสียชีวิตได้ 100% อย่างไรก็ตามรัฐบาลตั้งใจจะฉีดให้กับประชาชนเพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อนอยู่แล้ว ส่วนราคาซิโนแวคที่แพงกว่าไฟเซอร์ เป็นเพราะแอสตราเซเนกาใช้นโยบาย CSR NO PROFIT NO LOSST และผลิตในประเทศ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ต้องถูกลง และวัคซีนทั่วไปที่ซื้อก็ซื้อตามราคาตลาด ไม่ได้ซื้อแพงกว่าคนอื่นไปตรวจสอบได้ ว่าเขาขายให้ประเทศไทยแพงกว่าประเทศอื่น 5-6 เท่าหรือไม่ ซึ่งยืนยันว่ามีความจำเป็นต้องใช้วัคซีนเร่งด่วนจึงได้ซื้อซิโนแวค และซื้อตรง สถานทูตรู้ รัฐบาลรู้ ทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎหมายและระเบียบ และรัฐบาลจีนต้องอนุมัติการส่งออกทุกครั้งด้วย ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนไม่มีใครทำผิดกฎหมาย ซึ่งทั้งหมดราคาทางบริษัทต้นทางก็เป็นผู้กำหนดซึ่งเราได้ต่อรองค่าขนส่งและอื่นๆมาโดยตลอด
