นายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจัดทำโครงการคนละครึ่ง แจกเงินสูงสุด 3,000 บาท จำนวน 10 ล้านคน พร้อมอนุมัติแจกเงินผู้ถือบัตรคนจน 14 ล้านคน เดือนละ 500 บาท ภายใต้งบประมาณ 5.1 หมื่นล้าน เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน หลังประสบปัญหาเศรษฐกิจและหนี้ครัวเรือนสูงขึ้นมาก ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว ได้รับความนิยมและเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าชมเชย
อย่างไรก็ตาม ในระดับของการปฏิบัติที่ผ่านมา ได้รับการร้องเรียนจากผู้ใช้บริการว่า โครงการดังกล่าวมีความหละหลวมและไร้การตรวจสอบ จึงให้ทีมงานลงไปตรวจสอบ จึงพบว่ามีร้านค้าและร้านอาหารบางแห่งฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า โดยมีการรายงานพฤติกรรมเข้ามาหลายรูปแบบ ซึ่งตนเองอยากให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบลงไปแก้ไขอย่างเร่งด่วนต่อไป
ทั้งนี้ รูปแบบของการทุจริตที่ได้รับความนิยมสูงสุดในขณะนี้คือการฮั้วกัน ระหว่างร้านค้าที่ร่วมโครงการกับผู้ใช้สิทธิ์ ที่ร่วมกันทุจริตเงินในส่วนที่รัฐบาลเป็นผู้ออกให้ 150 บาท ซึ่งร้านค้าจะตกลงกับผู้ใช้สิทธิ์ให้ใช้สิทธิ์เต็มวงเงิน 300 บาท จากนั้นนำส่วนต่างที่รัฐออกให้ 150 บาทมาแบ่งกันตามข้อตกลง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่รัฐบาลปล่อยให้เงินงบประมาณที่รัฐบาลทุ่มลงไปเพื่อเรียกคะแนนนิยมกลับเปิดช่องให้มีการทุจริตมหาศาล รัฐบาลต้องเร่งปิดจุดอ่อนเพื่อให้เงินงบประมาณที่เป็นภาษีของประชาชนให้เกิดประโยชน์กับประชาชนสูงสุดโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นโครงการดีๆแบบนี้อาจถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ