ม็อบประชาชนคนไทย เคลื่อนขบวน ไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้ นายกรัฐมนตรี ลาออก จากตำแหน่ง
บรรยากาศการชุมนุมของ กลุ่มประชาชนคนไทย นำโดยนายนิติธร ล้ำเหลือ เคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออก จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
โดยการชุมนุม เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 13.00 น. และเริ่มเคลื่อนขบวนเวลา 14.39 น. บริเวณแยกถนนอุรุพงษ์ ช่วงขาขึ้นทางด่วน จากนั้น จะเคลื่อนตัวไปที่ทำเนียบรัฐบาล โดยวางแผนว่าจะปักหลักค้างคืน ที่ศาลกรมหลวงชุมพร ใกล้กับสะพานชมัยมรุเชฐ
โดยก่อน เริ่มเดินขบวน พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผู้กำกับ สน.พญาไท ได้เข้ามาพูดคุยเจรจากับนายนิติธร ยุติการชุมนุม ผิดมาตรการ สถานการณ์ฉุกเฉิน และมาตรการควบคุมโรค ที่ นายนิติธร ได้แจ้งว่า ได้ยื่นขออนุญาตไปแล้วกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล และยืนยันว่ามีช่องทางทางกฎหมายที่ทำกิจกรรมได้อยู่ จึงถือว่าชอบด้วยกฎหมาย ยืนยันเจตนารมณ์ชุมนุมค้างคืน และมองว่า ทางออก ขณะนี้คือการพูดคุยกัน
และเมื่อเวลา 14:50 น. กลุ่มประชาชนคนไทยได้เดินทางมาถึงแยกยมราช พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผู้กำกับ การ สน.นางเลิ้ง และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขวางกระบวนการเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาลต่อ ได้โดยมีการเจรจาถึงข้อกฎหมายว่าการกระทำดังกล่าวอาจมีความผิดมาตรการ สถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ นายนิติธร ได้มีการเจรจาตกลงกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจจึงได้เปิดทางให้เดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาลต่อได้
กลุ่มประชาชนคนไทย ถึงแยกนางเลิ้ง เจรจากับเจ้าหน้าที่แต่ยังไม่เป็นผล ยืนยันจะเดินหน้าต่อไปแยกพาณิชการ เพื่อปักหลักและทำกิจกรรมทางการเมือง
ภายหลังที่กลุ่มประชาชนคนไทยเดินทางมาถึงบริเวณแยกนางเลิ้ง ได้ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนและแผงเหล็กได้สกัดกลุ่มผู้ชุมนุมอีกครั้ง ที่แยกนางเลิ้ง จึงได้เกิดการเจรจาอีกครั้ง โดย พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ทำหน้าที่เจรจา
โดยนายนิติธร ล้ำเหลือ (ทนายนกเขา)นำมวลชนจำนวนหนึ่ง เดินทางมาถึงแยกนางเลิ้ง ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที ซึ่งมีเจรจา กับ บก.น.1 แต่ขณะนี้ยังไม่เป็นผลแม้จะผ่านไปถึง 30 นาที ซึ่งผู้ชุมนุมเองยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อไปยังแยกพาณิชการเพื่อปักหลักและทำกิจกรรมทางการเมือง โดยสงบและสันติวิธี ปราศจากอาวุธ และจะขอปักหลักค้างคืนเพื่อทวงถามคำสัญญา
สำหรับ ประเด็นที่ออกมาเคลื่อนไหวนั้น เกิดจากการบริหารงานที่ล้มเหลวของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านตัวชี้วัดใน 7 ปี ของการเข้ามาบริหารประเทศ เช่น ตัวชี้วัดด้านเศรษฐกิจเพราะจากการแถลงของรัฐบาลเอง ที่ประเทศมีจีดีพีที่ลดลง แสดงให้เห็นว่าประเทศอยู่ในสภาวะขาดทุน เศรษฐกิจฝืดเคียง โดยไม่เห็นทิศทางฟื้นฟูเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ การแก้ปัญหาการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ไม่มีประสิทธิภาพและไม่คำนึงถึงปัญหาเศรษฐกิจ
กลุ่มประชาชนคนไทย เดินทางถึงหน้า ม.ราชมงคลพระนคร แล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้กั้นเส้นทางให้อยู่แค่บริเวณนั้น
เมื่อเวลา 15.48 น. นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา ได้ขึ้นเวทีปราศรัย เพื่อเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง ภายหลังจากรอเจ้าหน้าที่ตำรวจประชุมปรึกษาหารือกัน ว่าจะเปิดทางให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าหรือไม่ กว่า 30 นาที
โดยนายนิติธร ได้กล่าวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดทาง หากไม่เช่นนั้นจะให้รถเครื่องเสียงบุกเข้าไป หลังจากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาเจรจา ว่าจะเปิดช่องทางเดินรถขวาสุดให้เข้าไปเพื่อเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาลต่อ
ซึ่งจะมีกำลังเจ้าหน้าที่ได้ตั้งแถว อยู่บริเวณตรงข้ามมวลชน เพื่อนำมวลชนเข้าไปยังบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล และเมื่อเวลา 16:00 น. ขบวนการประชาชนคนไทย ได้เคลื่อนขบวนต่อไปยังทำเนียบรัฐบาล
เมื่อเวลา 16.45 น. มวลชนได้เดินทางมาถึง หน้าบริเวณมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร แล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้กั้นเส้นทางให้อยู่แค่บริเวณดังกล่าว
ทนายนกเขา สั่งรถบรรทุกเครื่องเสียง ดันเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อมุ่งหน้าข้ามสะพานชมัยมรุเชฐ
เมื่อเวลา 17:04 น. บรรยากาศเริ่มมีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น เมื่อนายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา สั่งให้รถบรรทุก ซึ่งเป็นรถเครื่องขยายเสียง ดันกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน เพื่อที่จะมุ่งหน้าข้ามสะพานชมัยมรุเชฐ ให้ได้ พร้อมกับสั่งให้ ตำรวจถอยร่นแต่หากไม่ยอมถอย จะเดินหน้ารถเพื่อฝ่าแนวกั้นมา
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่บริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล ได้สั่งเตรียมความพร้อมรถฉีดน้ำแรงดันสูงหรือ จีโน่ 2 คัน, รถคุมตัวผู้ต้องขังรวมถึงรถเติมน้ำไว้ หลังกำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน
ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเสริมกำลังเพิ่มอีกชั้นหนึ่ง เพื่อกั้นไม่ให้ผู้ชุมนุมเคลื่อนเข้ามาได้ กลุ่มผู้ชุมนุมจึงสั่งให้หยุดความเคลื่อนไหว แล้วปักหลักปราศรัย และได้ต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news