รัฐบาลขอความร่วมมือผู้ประกอบการ คุมแคมป์คนงาน ไม่ให้แรงงานเดินทางกลับต่างจังหวัด ยันกระทรวงแรงงานจะดูแลค่าจ้าง ความเป็นอยู่ทุกแคมป์ที่ถูกปิดชั่วคราว
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ได้มีการประชุมคณะที่ปรึกษาด้านการสาธารณสุข
ในศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 วานนี้ และได้รับฟังรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาด ซึ่งที่ประชุมฯ มีความห่วงใยกลุ่มคลัสเตอร์ที่เกิดขึ้นในแคมป์ที่พักคนงานต่าง ๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล รวมถึง 4 จังหวัดภาคใต้ คือ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ สงขลา จึงได้มีมติให้ปิดแคมป์เป็นการชั่วคราว เพื่อระงับการแพร่ระบาด โดยมอบหมายให้กระทรวงแรงงานดูแลค่าใช้จ่ายเงินค่าจ้างชดเชย แก่ลูกจ้างแทนผู้ประกอบการ ในช่วงที่มีการประกาศปิด 1 เดือน โดยขอความร่วมมือผู้ประกอบการหลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายแรงงานโดยเด็ดขาด และไม่ให้คนงานเดินทางกลับต่างจังหวัดโดยหน่วยงานของรัฐจะเข้าไปดูแลเรื่องอาหาร และความเป็นอยู่ให้เรียบร้อย
ทั้งนี้ คนงานจะต้องอยู่ในพื้นที่ ที่กำหนด เนื่องจากที่ผ่านมาแคมป์ก่อสร้างเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อ โดยกระทรวงแรงงานจะเข้าตรวจสอบเช็กชื่อคนงานทุกวัน เพื่อทำบัญชีค่าจ้างร่วมกับตัวแทนนายจ้าง หากลูกจ้างคนใดไม่อยู่ในแคมป์ ก็จะพิจารณาเป็นรายๆ ไปโดยกระทรวงแรงงานจะประสานกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อลงไปในพื้นที่และพบกับผู้ประกอบการ เพื่อทำความเข้าใจ ชี้แจงมาตรการความช่วยเหลือจากรัฐบาล พร้อมกับขอความร่วมมืองดการเคลื่อนย้ายแรงงานทั้งหมดในเวลานี้ โดยในช่วงที่ปิดแคมป์ กระทรวงแรงงานจะมีมาตรการเยียวยาให้ร้อยละ 50 ของค่าจ้าง ซึ่งเป็นการชดเชยเยียวยากรณีว่างงาน เพราะเหตุสุดวิสัย เนื่องจากถูกปิดตามคำสั่ง ศบค. ซึ่งในเบื้องต้น กระทรวงแรงงานมีแผนที่จะทำรายการจ่ายเงินสดให้คนงานที่แคมป์ทุกๆ 5 วัน ตลอดช่วง 1 เดือน ตามรายชื่อที่นายจ้างรับรองวันต่อวัน จะมีระบบตรวจสอบว่าแรงงานที่จะได้รับการเยียวยานั้น จะต้องอยู่ในแคมป์จริงๆ รวมทั้งกระทรวงแรงงานจะลงไปตรวจโควิด-19 เชิงรุกทุกแคมป์ที่ปิด และหากแคมป์ใดถือว่าปลอดภัยแล้ว และได้รับวัคซีน ในส่วน ม.33 แล้ว
รวมถึงคณะกรรมการร่วมระหว่างกระทรวงแรงงาน ผู้ว่าราชการจังหวัด และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ตรวจสอบแล้วว่าปลอดภัย จะดำเนินการปลดล็อกให้แคมป์นั้นกลับมาเปิดได้โดยเร็วที่สุด และอาจไม่ต้องรอให้ครบ 1 เดือน ขณะที่โครงการใดที่มีสัญญากับรัฐหรือเอกชน จะมีการขยายระยะเวลาสัญญาให้ในช่วงที่แรงงานต้องหยุดการทำงานทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโรงงานในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล และ 4 จังหวัดภาคใต้ จ.ปัตตานี ยะลา สงขลา นราธิวาส ยังคงสามารถประกอบการได้ตามปกติ แต่ต้องมีการ Bubble & Seal รวมทั้งจะพิจารณากิจการที่มีความเสี่ยงต่อการติดโรค ซึ่งไม่เป็นการปิดทั้งหมด แต่จะมีมาตรการเฉพาะออกมาเป็นการชั่วคราว โดยรัฐบาลจะดูแลเป็นพิเศษทั้งหมดทุกกิจการ ทุกพื้นที่ และทุกคลัสเตอร์
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
