มติศาลรธน.ไม่รับสอบ”บิ๊กตู่”คดีแก้รถไฟฟ้าสีเขียว
มติศาลรธน.ไม่รับสอบ “พล.อ.ประยุทธ์” คดีแก้รถไฟฟ้าสีเขียว ชี้ หมดยุคคสช.แล้ว
สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่เอกสาร ที่ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาคดีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา186 วรรคหนึ่ง และมาตรา 184 วรรคหนึ่ง (2) หรือไม่
เนื่องจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 72 คน ยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร(ผู้ร้อง) ว่าพลเอก ประยุทธ์ (ผู้ถูกร้อง) ออกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 3/2562 เรื่อง การดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ลงวันที่ 11 เมษายน 2562 เป็นการเข้าไปแทรกแซงและก้าวก่ายการเข้ารับสัมปทานจากหน่วยงานของรัฐซึ่งมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญดังกล่าว เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ ผู้ร้องจึงส่งคำร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
ผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วจึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย โดยเห็นว่า บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตราข้างต้น มีความมุ่งหมายให้ใช้บังคับแก่ผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีไม่ให้กระทำการอันเป็นการต้องห้ามในขณะที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี หากรัฐมนตรีผู้ใดกระทำการอันเป็นการต้องห้ามดังกล่าวในขณะที่ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอยู่ ความเป็นรัฐมนตรีของผู้นั้นย่อมต้องสิ้นสุดลง ดังนั้น การยื่นคำร้องดังกล่าว นั้น จะต้องเป็นกรณีที่ผู้ถูกร้องดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีนั้นอยู่ในขณะที่ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อข้อเท็จจริงตามคำร้องปรากฎว่าในขณะที่ผู้ร้องยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง แต่ผู้ถูกร้องได้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามบทเฉพาะกาล มาตรา 264 ของรัฐธรรมนูญไปแล้วนับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญเข้ารับหน้าที่ผู้ร้องไม่อาจยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news