Home
|
ข่าว

นายกฯสั่งระดมสรรพกำลังระงับเหตุไฟไหม้กิ่งแก้ว

Featured Image
นายกรัฐมนตรี สั่งระดมสรรพกำลังระงับเหตุ ไฟไหม้สมุทรปราการ เร่งด่วนด้วยความระมัดระวัง พร้อมดูแลประชาชนอย่างเต็มที่

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์การระเบิดภายในโรงงานของบริษัท หมิงตี้ เคมิคอล จำกัด ในซอยกิ่งแก้ว 21 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ที่ยังคงน่าเป็นห่วง

 

โดยเฉพาะการปฏิบัติงานบรรเทาภัยของหน่วยงานต่างๆในการระงับเหตุอย่างต่อเนื่อง ทั้งการป้องกันการะเบิดซ้ำ การดับไฟ การสกัดควัน การจัดหาสารเคมีและโฟมดับไฟ เนื่องจากเพลิงที่ลุกไหม้ในที่เกิดเหตุ มีต้นทางเป็นถังบรรจุสารเคมีซึ่งสารดังกล่าวไม่สามารถดับได้ด้วยน้ำ จึงมีความจำเป็นต้องใช้โฟมในการดับไฟ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ประสานนำเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 2 ลำ จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และรถฉีดโฟมขนาดใหญ่ ให้ความช่วยเหลือการดับเพลิงแล้ว รวมทั้งได้สั่งให้ทุกหน่วยงานทั้งในส่วนของภาครัฐและภาคเอกชนช่วยเหลือ จัดหาโฟมและสารเคมีดับไฟเพิ่มเติมด้วย รวมถึงการขอทีมที่เชี่ยวชาญ การจัดการสารเคมีเข้าร่วมสนับสนุนการระงับเหตุ ซึ่งได้นำเครื่องมือ เช่น Fire Robots และ Gas Detectors ไปยังจุดเกิดเหตุแล้ว

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหม จัดส่งกำลังพลจากทุกเหล่าทัพ รวมถึงยานพาหนะ รถดับเพลิง โฟมและสารเคมี ชุดเผชิญเหตุสารเคมี อากาศยานไร้คนขับ รวมทั้งรถพยาบาล พร้อมเจ้าหน้าที่แพทย์สนามและทหารสารวัตร เข้าพื้นที่เสริมการทำงานของจังหวัดสมุทรปราการด้วยแล้ว

ไฟไหม้กิ่งแก้ว--รองผู้ว่ากทม.

 

รวมทั้งสั่งการให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยบรรเทาฝุ่นควันจากเหตุดังกล่าวด้วยแล้ว โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีการติดตามสภาพอากาศอย่างต่อเนื่อง หากเข้าเงื่อนไขการทำฝน จะวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการช่วยเหลือทันที

“นายกรัฐมนตรี เสียใจกับการสูญเสียเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เสียชีวิตจากการระงับเหตุในครั้งนี้ ขอให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ พร้อมกับให้ภาครัฐจัดการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทุกคนจากทุกหน่วยงาน ที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ทั้งการระงับเหตุและช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มความสามารถ

และย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องที่พักและอาหารในจุดอพยพต่างๆ รวมทั้งเร่งสำรวจและหาสาเหตุเพลิงไหม้ให้ชัดเจน เมื่อสถานการณ์สงบลงเพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป และการเตรียมการต่างๆเพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติได้โดยเร็ว”

ล่าสุด นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการเพิ่มเติมว่าการทำฝนจะไม่เหมาะกับสถานการณ์ระงับเหตุในครั้งนี้ เนื่องจากอาจได้รับผลกระทบจากสารเคมีที่ปนเปื้อนได้ จึงได้สั่งการให้ยกเลิกภารกิจทำฝนเทียม

 

 

ไฟไหม้กิ่งแก้ว

 

อธิบดีกรมฝนหลวงยืนยัน นายกฯสั่งการทำฝนเทียมช่วยบรรเทาฝุ่นควันเหตุไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ชี้แจงกรณีเพจกรมฝนหลวงและการบินเกษตร โพสต์ข้อความระบุ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการให้ทำฝนหลวง เพื่อบรรเทาฝุ่นควัน ที่เกิดจากเหตุการณ์ไฟไหม้และระเบิดที่โรงงานผลิตเม็ดโฟมของบริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ที่ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ทางทิศตะวันตกของสนามบินสุวรรณภูมิ หากสภาพอากาศเอื้อ

โดยยืนยันว่า เป็นคำสั่งการของนายกรัฐมนตรี จริง ซึ่งนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใย เรื่องควันพิษที่กระจายฟุ้งในชั้นอากาศหากประชาชนสูดดมเข้าไปจะเป็นอันตราย จึงสั่งการมายังกรมฝนหลวง ว่า สามารถทำฝนที่สามารถสลายฝุ่นควันในลักษณะดังกล่าวได้หรือไม่ ไม่ใช่การสั่งการให้เข้าไปช่วยดับไฟ เพราะวิธีการดับไฟต้องใช้โฟม สำหรับการดับไฟที่เกิดจากสารเคมี กรมฝนหลวงจึงต้องพิจารณาว่าสามารถทำได้หรือไม่

ส่วนข้อกังวลที่ประชาชนเกรงว่าจะมีฝน ที่มีลักษณะเป็นพิษตกลงมาด้วยนั้น ชี้แจงว่าหากกรมฝนหลวงจะทำต้องหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมก่อน ขณะเดียวกันยังยอมรับว่าไม่สามารถปฏิบัติการในพื้นที่ดังกล่าวได้ภายในวันนี้ เพราะต้องยึดหลักนิรภัยการบินที่ต้องบินห่างจากสนามบิน ไม่น้อยกว่า 50 ไมล์ รวมถึงสภาพอากาศที่ต้องเอื้อต่อการปฏิบัติการ

อย่างไรก็ตาม หากมีการทำฝนเทียม ยอมรับว่าอาจจะต้องมีสารเคมีปะปนลงมาบ้าง แต่ในขณะนี้ฝุ่นควันเป็นลักษณะที่ลอยกระจายตามทิศทางลม ซึ่งอาจจะลอยไปทางแถบจังหวัดนครนายก จังหวัดฉะเชิงเทรา เนื่องจากเป็นลมตะวันตกเฉียงใต้ ฉะนั้นโซนที่เกิดเหตุ ไม่ได้เป็นกลุ่มฝุ่นควันที่รวมตัวในปริมาณมากตลอดเวลา เมื่อมีฝนตกลงมาปริมาณมากก็จะสามารถชะล้าง และเจือจางฝุ่นควันที่มีน้อยกว่าได้

ส่วนเป็นไปได้หรือไม่หากปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมแล้วแนวทางการทำฝนเทียมจะบินในรอบนอกที่มีฝุ่นควันเจือจางก่อน นายสุรสีห์ ระบุว่า หากเป็นฝุ่นควันที่อยู่รอบนอก และกระจายเบาบางแล้วอาจจะไม่มีผลต่อการสูดดมสารเหล่านั้นเข้าไป

พร้อมย้ำว่า จะต้องพิจารณาตามหลักการอีกครั้ง หากไฟยังไม่ดับและบริเวณที่เกิดเหตุยังมีฝุ่นควันปริมาณมาก หากโอกาสเอื้อต่อการปฎิบัติการที่สามารถทำได้ และได้หารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมแล้วจะมีผลดีมากกว่าผลเสีย ก็ต้องทำ ขอให้มองที่เจตนาเพราะทุกคนมีเจตนาที่ดี ซึ่ง นายกรัฐมนตรี ก็มีความปรารถนาดีต่อประชาชน เช่นเดียวกันกับกรมฝนหลวงที่จะปฏิบัติการแต่ละครั้งก็มีเจตนาดีต่อประชาชนเช่นกัน

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube