Home
|
ข่าว

“วราวุธ”ตรวจโควิด2รอบเป็นลบหลังร่วมภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

Featured Image
“วราวุธ” แจงผลตรวจโควิด 2 รอบเป็นลบ หลังร่วมเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์  ยัน ทส. เร่งคุมไม่ให้สารปนเปื้อนโรงงานไฟไหม้ลงแหล่งน้ำธรรมชาติ

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงความคืบหน้าการควบคุมสารเคมีอันตรายในโรงงานหมิงตี้ เคมีคอล หลังเกิดระเบิดและมีเพลิงไหม้ ว่า
ในวันพรุ่งนี้ (9ก.ค.64) จะทราบผลตรวจสารตัวอย่าง ส่วนมาตรการควบคุมการระบายน้ำภายในพื้นที่โรงงาน ขณะนี้ทางกรมชลประทานได้ให้ความร่วมมือปิดประตูระบายน้ำในฝั่งตะวันตกเรียบร้อยแล้วขณะเดียวกันท้องถิ่นเองก็มีการปิดประตูระบายน้ำในฝั่งตะวันออกเพื่อควบคุมไม่ให้สารปนเปื้อนลงไปในแหล่งน้ำธรรมชาติ

ทั้งนี้นายวราวุธ ระบุอีกว่า สารสไตรีนโมโนเมอร์ เป็นสารที่มีความหน่วงเฉพาะน้อยกว่าน้ำ ดังนั้นเมื่อผสมกับน้ำจะลอยอยู่เหนือน้ำไม่ผสมกัน และเป็นสารที่มีจุดเดือดต่ำ ดังนั้นโอกาสที่จะระเหยไปภายในอากาศจึงมีสูง ซึ่งหากตกค้างในท่อระบายน้ำ คาดว่าภายใน 24-48 ชั่วโมง จะระเหยหมด ส่วนค่าสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย ก็จะทราบพร้อมกับผลการตรวจดังกล่าว โดยคาดว่าน่าจะอยู่ในปริมาณที่ปลอดภัย โดยที่ผ่านมากรมควบคุมมลพิษได้ประสานงาน กับหลายหน่วยงานในการฉีดสาร F500 หรือ Foam Fire Extinguishing Agent บริเวณรอบถังสไตรีนโมโนเมอร์
และเติมสาร DE HA หรือ ดีฮา 600 ลิตร ซึ่งจะทำให้สไตรีนโมโนเมอร์จับตัวเป็นก้อนเพื่อง่ายต่อการกำจัดและมีประสิทธิภาพ เพื่อลดการเกิดปะทุรอบใหม่

นอกจากนี้ นายวราวุธ ยังกล่าวถึงการกักตัวภายหลังการเดินทางร่วมงาน Phuket sandbox และมีผู้ติดเชื้อ ว่า สบายดี ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง แต่เพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายที่อยู่โดยรอบ
จึงกักตัว และได้ทำการสวอป 2 รอบ ซึ่งมีผลตรวจออกมาว่าเป็นลบทั้ง 2 รอบ ส่วนได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น นายวราวุธ ระบุว่า ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากไปรบกวนนายกรัฐมนตรี
เพราะภาระงานของนายกรัฐมนตรีก็มีมากอยู่แล้ว จึงรู้สึกเห็นใจ เพราะแต่ละเรื่องที่เข้ามาก็หนักทั้งนั้น อะไรที่สามารถสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลได้ ก็จะทำ และดำเนินการเต็มที่

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube