นายกรัฐมนตรี เรียกหารือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และทีมแพทย์ รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คาดรับทราบแผนการจัดหาวัคซีน และ ความคืบหน้า หลังเปิด “สมุย พลัส” ทบทวนเปิด 10 จังหวัดท่องเที่ยวหลังตัวเลขติดเชื้อพุ่ง
ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดโรงงานผลิตหน่วยกักเก็บพลังงานต้นแบบ (Battery Pilot Plant) เสร็จสิ้น ช่วงเที่ยง นายกรัฐมนตรี ได้เชิญนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ ปิยะสกล สกลสัตยาทร ประธานคณะกรรมการจัดสรรวัคซีนและ ที่ปรึกษา ศบค. เข้าหารือคาดว่าจะเป็นเรื่องการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม โดยรัฐบาล มีเป้าในการจัดสรรวัคซีน ให้ครอบคลุม ประชาชนให้ได้ร้อยละ 70 ภายในสิ้นปีนี้ ขณะเดียวกัน จะเร่งฉีดวัคซีนโดสแรกให้ประชาชน ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้
ขณะเดียวกันขณะ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เข้ารายงานความคืบหน้าโครงการสมุยพลัส โมเดล เพื่อหารือถึงความคืบหน้า รวมทั้งปัญหาอุปสรรค หลังจังหวัดภูเก็ต ออกคำสั่งปิดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปิดผับ บาร์
โดยมีรายงานว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะรายงาน ความคืบหน้า ในการเตรียมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทบทวนการเปิดพื้นที่นำร่อง 10 จังหวัด ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยใหม่ทั้งหมด ปัจจุบันมีจังหวัดเปิดแล้ว 4 จังหวัด คือ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กระบี่ และพังงา ส่วนที่เหลือในบางจังหวัดอาจยังเปิดรับนักท่องเที่ยวไม่ได้ เพราะยังพบตัวเลขการติดเชื้อใหม่จำนวนมาก และหากเปิดไปแล้วอาจทำให้เกิดปัญหาตามมา โดยเฉพาะการเกิดเป็นคลัสเตอร์ใหม่ จากการท่องเที่ยว
ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยืนยันพร้อมหาทางเปิดพื้นที่ สำหรับให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในประเทศให้ได้มากที่สุด โดยเน้นเฉพาะพื้นที่ที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 น้อย เช่น จังหวัดในภาคเหนือ และภาคอีสาน ซึ่งหลาย ๆ จังหวัด มีการแพร่ระบาดน้อย โดยอาจจะไม่ต้องทำทั้งหมดใน 10จังหวัดนำร่อง ที่ตั้งเป้าหมายมาก่อนหน้านี้ก็ได้ เช่น กรุงเทพฯ ยังมีการติดเชื้อจำนวนมากอยู่ ก็ยังไม่จำเป็นต้องเปิด เช่นเดียวกับชลบุรี เพชรบุรี หรือประจวบคีรีขันธ์ ที่ยังพบการติดเชื้ออยู่มาก คงต้องพักไว้ก่อน ส่วนที่เหลือจะพยายามเปิดให้ได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
