“ศักดิ์สยาม” สั่งอำนวยความสะดวกเดินทางฉีดวัคซีนแบบWalk-in ให้ผู้สูงอายุ 60 ปี-คนตั้งครรภ์ ยันเปิดรพ.สนามสุวรรณภูมิ ส.ค.แน่ แม้มีปัญหาอุปกรณ์และแพทย์ไม่เพียงพอ สธ.เร่งจัดหา พร้อมส่งคนป่วยกลับบ้านทั่วประเทศ
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ได้สั่งการให้ดำเนินการให้บริการขนส่งสาธารณะให้เพียงพอต่อความจำเป็นและตามเวลาที่เหมาะสมในการเดินทางของประชาชน โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกการขนส่งประชาชนเพื่อรับบริการฉีดวัคซีน และบริการทางการแพทย์ ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค.64 ที่ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ที่เริ่มมีการฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป และผู้ที่มีอายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป แบบ Walk-in
โดยในบริการขนส่งสาธารณะ ต้องปฏิบัติตามข้อสั่งการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โดยจำกัดจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการไม่เกิน 50% ของความจุผู้โดยสาร สำหรับยานพาหนะแต่ละประเภท รวมทั้งจัดให้มีการเว้นระยะห่าง และการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
ขณะที่ความคืบหน้าความคืบหน้าในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ที่ อาคารเทียบเครื่องรองหลังที่ 1 หรือ SAT1 สนามบินสุวรรณภูมิ ล่าสุด นายศักดิ์สยาม เปิดเผยว่า ขณะนี้บอร์ด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ได้การพิจารณาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในส่วนของการดำเนินการเรื่องสถานที่ไม่ติดปัญหาอะไร แต่ยอมรับว่ามีปัญหาในเรื่องของอุปกรณ์ทางการแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ ที่ไม่เพียงพอ ซึ่งถือเป็นความยากของกระทรวงสาธารณสุข ที่ขณะนี้กำลังจัดหาเพิ่มเติม โดยการขอรับบริจาค และการจัดซื้อ ซึ่งต้องเป็นไปตามระเบียบกฎหมาย ที่ทางกระทรวงสาธารณสุข กำลังดำเนินการ
พร้อมยืนยันว่า การเปิดให้บริการประชาชนยังคงเป็นไปตามกำหนดการเดิม ในช่วงเดือน ส.ค. เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบันที่มีเพิ่มมากขึ้น
นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า ทางกระทรวงคมนาคม ได้มีการประชุมเตรียมการส่งผู้ป่วยโควิดกลับภูมิลำเนาทั่วประเทศ ตามมติของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีแต่ละท่านรับผิดชอบการจัดการนำผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีความประสงค์จะกลับไปพักรักษาตัวในจังหวัดภูมิลำเนา ซึ่งเป็นการดำเนินงานภายใต้ความรับผิดชอบของกระทรวงสาธารณสุข เป็นแกนกลางหลักในการประสานกับผู้ป่วย และรัฐมนตรีแต่ละท่านช่วยในการประสานใช้ทรัพยากรในการลำเลียง จัดส่ง และประสานจังหวัดภูมิลำเนาปลายทาง สำหรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้รับผิดชอบจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 6 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ ยโสธร อำนาจเจริญ สุรินทร์ อุบลราชธานี และศรีสะเกษ
ทั้งนี้ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งเป็นการทำหน้าที่เป็นแกนหลักประสานระหว่างผู้ป่วยกับหน่วยงานของรัฐในการจัดส่งผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา ผ่านเบอร์โทรศัพท์ 1330 ซึ่งสามารถโทรประสานงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยกระทรวงคมนาคม พร้อมร่วมในการดำเนินการจัดส่งผู้ป่วย ด้วยทรัพยากรของกระทรวงคมนาคม ทุกด้าน พร้อมดูแลตั้งแต่การเดินทาง อาหาร และประสานดำเนินงานเพื่อให้ผู้ป่วย ถึงยังสถานพยาบาลในจังหวัดภูมิลำเนาด้วยความปลอดภัย และถึงมือแพทย์ โดยเร็วที่สุดตามมาตรฐานการบริการด้านสาธารณสุขต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news