นายกฯเปิดรถไฟสายสีแดง-เร่งพัฒนาระบบรางเชื่อมทุกภูมิภาค
นายกรัฐมนตรี ย้ำเร่งพัฒนาระบบคมนาคมทางราง เชื่อมต่อทั่วทุกภูมิภาค “ศักดิ์สยาม” สั่งบูรณาการเชื่อมเดินทางขนส่งอื่น พร้อมลุยส่วนต่อขยาย 4 เส้นทางภายในปลายปี 64
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง (Soft Opening) ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ผ่านระบบออนไลน์ ณ ทำเนียบรัฐบาล มายังสถานีกลางบางซื่อ พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (2 ส.ค. 64)
โดยกล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (2561-2580) โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ระบบคมนาคมขนส่งทางราง” โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้เร่งพัฒนาระบบคมนาคมทางรางอย่างต่อเนื่อง ทั้งรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล รถไฟทางคู่ทั่วประเทศ รวมถึงโครงข่ายรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา และรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน เพื่อเชื่อมต่อทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง เพิ่มประสิทธิภาพด้านการเดินทาง ขนส่งและโลจิสติกส์
ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคม ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนการลงทุนด้านการพัฒนาระบบขนส่งทางรางให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม สำหรับสถานีกลางบางซื่อเป็นโครงการก่อสร้างสถานีรถไฟหลักของประเทศไทย เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะเป็นสถานีรถไฟหลักแห่งใหม่ของประเทศไทยที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2556 และแล้วเสร็จในปี 2564
โดยในช่วงการทดลองเปิดให้ใช้บริการนั้น จะเดินรถทุก 30 นาที ระหว่างเวลา 06.00-20.00 น. และทุกๆ 15 นาที ในช่วงเวลาเร่งด่วน เวลา 07.00-09.30 น. และเวลา 16.30-19.30 น. รวมเส้นทางละ 78 เที่ยวต่อวัน ขณะเดียวกัน การรถไฟฯ จะจำกัดจำนวนผู้โดยสารทุกประเภทในขบวนรถ และสถานีไม่เกิน 50% เพื่อเป็นไปตามมาตรการรักษาระยะห่าง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยรองรับผู้โดยสารในช่วงบางซื่อ-รังสิตได้ 855 คนต่อเที่ยว จากปกติ 1,710 คนต่อเที่ยว และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ได้ 560 คนต่อเที่ยว จากปกติ 1,120 คนต่อเที่ยว นอกจากนี้ จะให้ใช้บริการที่สถานีกลางบางซื่อประตู 1 เท่านั้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news