ทบ.เผย3เดือนกับภารกิจรับ-ส่งผู้ติดเชื้อโควิด
ทบ. เผย 3 เดือนกับภารกิจรับ-ส่ง ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ใน กทม.และปริมณฑล พร้อมส่งคนกลับภูมิลำเนาแล้ว 405 คน
พ.ท.หญิง พัชรินทร์ บุศยกุล ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 กองทัพบก ได้ใช้ศักยภาพของกำลังพล ทรัพยากรและยานพาหนะของศูนย์การเคลื่อนย้าย ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง กองทัพบก (ศคย.ศปม.ทบ.) ด้วยภารกิจอำนวยความสะดวก รับ-ส่งผู้ติดเชื้อโควิด-19 ส่งต่อยังสถานพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษา ครอบคลุมในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล โดยดำเนินการตามนโยบายของพล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ตั้งแต่ 27 เม.ย.64 เป็นต้นมา ร่วมกับกองทัพภาคที่ 1 และกรมขนส่งทหารบก ผ่านกลไกของศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด กองทัพบก ในการรับข้อมูลความเดือดร้อนประชาชน และประสานเชื่อมต่อข้อมูลไปยังส่วนงานราชการของสาธารณสุข เพื่อบริหารจัดการนำเข้าสู่กระบวนการรักษา และส่งข้อมูลให้ ศคย.ศปม.ทบ. อำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายไปยังจุดหมายปลายทาง
ล่าสุด จากนโยบายของรัฐบาล “คนไทยไม่ทิ้งกัน พาคนกลับบ้าน” เพื่อบริหารจัดการผู้ติดเชื้อที่มีจำนวนมากขึ้นให้เข้าสู่กระบวนการรักษาโดยเร็ว ในสถานพยาบาลตามภูมิลำเนาของตนเองทั่วประเทศ ซึ่งกองทัพบก โดย ศคย.ศปม.ทบ. ได้บูรณาการร่วมกับกรมแพทย์ทหารบก, สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ, สถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน และกอ.รมน.จังหวัด ดำเนินการประสานและเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อสีเขียวที่ประสงค์จะกลับไปรักษาที่ภูมิลำเนาของตนเอง ตั้งแต่ 11 ก.ค.64 ที่ผ่านมา โดยดำเนินการส่งผู้ติดเชื้อไปยังภูมิภาคต่าง ๆ อาทิ จังหวัดลพบุรี, ร้อยเอ็ด, อุดรธานี, นครสวรรค์, พิษณุโลก, พิจิตร, น่าน,ตาก และลำปาง รวมทั้งสิ้น 405 ราย (1 ส.ค.64) นอกจากนี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกรับ-ส่งสิ่งของ อุปกรณ์ต่างๆที่ให้กับผู้ป่วยที่กักรักษาตัวบ้าน (Home Isolation) อาทิ ถังออกซิเจน ยารักษาโรค และมอบเครื่องอุปโภค-บริโภค ที่ได้รับบริจาคส่งต่อให้ผู้ป่วยตามบ้านเรือนอีกด้วย
การปฏิบัติภารกิจเคลื่อนย้ายดังกล่าวนี้ ถือเป็นความร่วมมือระหว่างกองทัพ ภาครัฐและสาธารณสุข ที่ดำเนินการอย่างเต็มความสามารถเพื่อคลี่คลายสถานการณ์วิกฤตที่เกิดขึ้น บรรเทาความเดือดร้อน อำนวยความสะดวก และลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบการรักษาพยาบาลได้เร็วขึ้น ตลอดจนช่วยผลักดันนโยบายส่งผู้ป่วยกลับไปรักษาต่อในพื้นที่ภูมิลำเนาที่มีศักยภาพและพร้อมดูแลผู้ติดเชื้ออย่างทั่วถึง ถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการในสถานการณ์โควิด-19 ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถประสานศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด กองทัพบก ได้ตลอด 24 ชม. ผ่าน CALL CENTER โทร 02-270-5685-9, 02-092-7766 (30 คู่สาย), 091-0100118-9, 090-980-9948-9 และ 088-984-7605-10 หรือ ID line : @covidtv5hd1
รพ.สนาม ทบ.พร้อมรองรับผู้ป่วยโควิดเพิ่มขึ้น เน้นบูรณาการร่วม สธ. ดูแลผู้ป่วยในชุมชน ลดการแพร่กระจายเชื้อ
พ.ต.หญิง ปวีณา ศรีบัวชุม ผู้ช่วยโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค โควิด-19 ในประเทศไทย มีแนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อสูงขึ้นและมีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างทั่วประเทศ กองทัพบกได้ให้ความสำคัญ และถือเป็นนโยบายเร่งด่วน ในการปฏิบัติงานเพื่อสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้จัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 กองทัพบก เพื่อติดตามสถานการณ์ บริหารจัดการ และให้ความช่วยเหลือประชาชนในทุกมิติ ตั้งแต่ 26 มี.ค. 63 ทั้งการระดมศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์ การใช้ยุทโธปกรณ์ และสถานที่ของหน่วยทหารสนับสนุนสาธารณสุขในภารกิจการรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อ และการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับจำนวนผู้ติดเชื้อที่มากขึ้น ทั้งส่วนโรงพยาบาลสนามที่สนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข โดยใช้กำลังพลของกองทัพบกช่วยบริหารจัดการด้านอาคารสถานที่ จัดเตรียมเตียงผู้ป่วย เครื่องนอน และสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น ใน 26 แห่ง ทั่วประเทศ รองรับผู้ป่วยได้ 4,941 เตียง (1 ส.ค.64)
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ล่าสุด ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กองทัพบกเห็นความสำคัญและความจำเป็นในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติม เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีจำนวนมากขึ้น และลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายโรคในครอบครัวและชุมชน กองทัพบกจึงได้ระดมศักยภาพจัดตั้ง รพ.สนามกองทัพบก ในพื้นที่ รพ.สังกัดกองทัพบกทั่วประเทศ รวม 37 พื้นที่ รองรับผู้ป่วยได้ 3,635 เตียง (1 ส.ค.64) เพื่อให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยที่เป็นกำลังพลและครอบครัวของกองทัพบก รวมทั้งประชาชนทั่วไป เพื่อลดภาระของสาธารณสุขในพื้นที่อีกด้วย
นอกจากนี้ ในส่วนภูมิภาคนั้นโรงพยาบาลสังกัดกองทัพบกทั้ง 37 แห่ง ได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม รวมทั้งการบริหารจัดการตามแนวทางการแยกกักผู้ป่วยในชุมชน (Community Isolation)
ทั้งนี้ กองทัพบก ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคยังคงยืดหยัดทุ่มเทปฏิบัติงานเพื่อช่วยดูแลผู้ป่วย COVID-19 ในทุกมิติ ทั้งการดูแลรักษาพยาบาลและการรณรงค์ส่งเสริมสุขภาพในชุมชนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งเป็นนโยบายที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ให้ความสำคัญและเน้นย้ำให้กำลังพลปฏิบัติหน้าที่ยืนหยัดเคียงข้างช่วยเหลือประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news