มวลชน เคลื่อนจากแยกนางเลิ้ง ถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ปิดพื้นที่บริเวณเกาะพญาไท-ราชวิถี จากนั้นไป บ้านพักนายกฯ ต่อ
ภายหลังผู้ชุมนุมถูกผลัดันออกจาก บริเวณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก็ได้ถอยมารวมตัวชุมนุมบริเวณแยกนางเลิ้ง ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมทยอยเดินทางมารวมกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งบริเวณดังกล่าวได้มีการกั้นตู้คอนเทนเนอร์ ไว้ที่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร และหน้าโรงเรียนราชวินิตมัธยม ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนเข้าไปใกล้บริเวณตู้คอนเทนเนอร์และเกิดการปะทะกันเล็กน้อย ก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุม จะเริ่มใช้หนังสติ๊กยิงข้ามตู้คอนเทนเนอร์ไปฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีเสียงคล้ายประทัดดังขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมควบคุมฝูงชนได้อยู่ด้านหลังตู้คอนเทนเนอร์ บริเวณสะพานลอยหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เพื่อดูสถานการณ์อย่างไรก็ตามผู้ชุมนุมได้ประกาศให้มวลชนที่เข้าร่วมชุมนุมในวันนี้ที่จะเดินทางมาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ให้เดินทางไปที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิได้เลย เพราะในเวลา จะเคลื่อนขบวนไปที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและจะเริ่มจัดกิจกรรมที่นั่น จากนั้น กลุ่มมวลชนได้เริ่มเคลื่อนขบวนไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ม็อบจากนางเลิ้ง ถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ปิดพื้นที่บริเวณเกาะพญาไท-ราชวิถี รถประจำทางไม่สามารถเข้ารับผู้โดยสารได้ เชิญชวนไปบ้านนายกฯอีก
กลุ่มมวลชนได้เคลื่อนขบวนจากบริเวณแยกนางเลิ้ง เพื่อจะมุ่งหน้าไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยมุ่งหน้ามาทางถนนเพชรบุรี ผ่านแยกอุรุพงษ์ และเลี้ยวซ้ายบริเวณแยกราชเทวี และเดินทางมาถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในเวลา14.40 น. และได้มีการปิดพื้นที่บริเวณเกาะพญาไท และเกาะราชวิถีทำให้รถประจำทางไม่สามารถเข้ารับผู้โดยสารได้
โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการปักหลักปราศรัยบริเวณเกาะพญาไท และมีการเชิญชวนให้ประชาชนแสดงสัญลักษณ์ และลงมาบริเวณท้องถนน ซึ่งในเวลา 15.00 น. ได้เตรียมเคลื่อนขบวนไปที่บริเวณกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นบ้านพักของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยไปทางถนนดินแดง
สหภาพรถไฟ ออกแถลงการณ์ คัดค้านการนำโบกี้รถไฟเป็นแนวกั้นการชุมนุม หวั่นเกิดอันตราย เกิดความเข้าใจผิดกับผู้ที่เคลื่อนไหว
แถลงการณ์สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย(สร.รฟท.) นำโดย คุณสาวิทย์ แก้วหวาน เรื่อง ไม่เห็นด้วยกับการนำตู้รถไฟไปเป็นแนวกั้นการชุมนุม ตามที่มีการนำเสนอภาพทางสื่อออนไลน์ และสื่อทั่วไป โดยภาพดังกล่าวให้เห็นถึงการนำตู้รถไฟซึ่ง อาจจะเลิกใช้การแล้ว ไปเป็นแนวกันชน ป้องกันผู้ชุมนุมไม่ให้เข้าไปในเขตหวงห้ามนั้น สร.รฟท.ไม่เห็นด้วย
เนื่องจาก
1.หากมีผู้ไม่ประสงค์ดี ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด อาจนำวัตถุอันตรายไปใส่ไว้ในตู้ ที่ปิดมิดชิด โดยเฉพาะตู้บรรทุกน้ำมัน แล้วเกิดเหตุอันตรายที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นจนอาจก่อให้เกิดความสูญเสียเกิดขึ้น จะไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย โดยเฉพาะรัฐบาล
2.จะเกิดความเข้าใจผิดกับผู้ที่เคลื่อนไหว ประชาชน ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางและวิธีการดังกล่าวจะกล่าวหาได้ว่าผู้ บริหารการรถไฟ สหภาพรถไฟ คนรถไฟ ถูกครอบงำสั่งการ จากนักการเมือง หรืออาสาดำเนินการเอง ก็จะเกิดความขัดแย้งกับประชาชนที่เห็นต่าง เพราะการรถไฟฯมีหน้าที่ให้บริการประชาชน เป็นมิตร ให้บริการกับทุกคนโดยไม่เลือก เชื้อชาติ ศาสนา เพศสภาพ สีผิว หรือลัทธิความเชื่อใด
3.จากประวัติศาสตร์การต่อสู้ภาคประชาชนต่อความขัดแย้งทางความคิด อุดมการณ์ทางการเมือง และความไม่พอใจต่อรัฐบาลนั้น ปราการแค่นี้คงไม่สามารถทานกระแสและการลุกขึ้นสู้ของประชาชนได้ จึงไม่ควรก่อให้เกิดสถานการณ์น้ำผึ้งหยดเดียว
4.ความขัดแย้ง ความเห็นต่าง การวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลที่ขยายเป็นวงกว้างในเวลานี้ จากหลายเรื่อง หลายประเด็นทั้งเรื่อง อำนาจทางการเมือง การจัดการเรื่องเศรษฐกิจ จนมาถึงวิกฤตการณ์ด้านสังคมจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ซึ่งเข้าใจได้ว่าเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อน แต่รัฐบาลต้องแสวงหาแนวทางโดยสันติวิธีในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชนที่เห็นด้วย เห็นต่าง อย่างเข้าใจ และเป็นมิตร จริงใจ
ดังนั้นจึงขอให้ยกเลิกการนำตู้รถไฟไปเป็นแนวกั้นการชุมนุมของประชาชนและขอให้ผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบว่าการนำตู้รถไฟไปออกไปนั้นกระทำการด้วยวิธีการอย่างไร ใครเป็นคนสั่งการ สร.รฟท.ยืนยันว่าไม่เห็นด้วย และการเคลื่อนไหวของประชาชนหากเคลื่อนไหวด้วยความสงบ ปราศจากอาวุธ ก็เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
